วิธีกำจัดปลวก

วิธีการกำจัดปลวกแบบต่างๆ ทั้งใช้และไม่ใช้สารเคมี

วิธีกำจัดปลวก
วิธีกำจัดปลวก

กำจัดปลวก นอกจากวิธีที่ชาวบ้านชอบใช้กันคือ เห็นปลวกหรือเส้นทางเดินของปลวกที่ไหน ก็เอายาฆ่าแมลงฉีดให้ปลวกตรงนั้นตาย ซึ่งเป็นวิธีที่ผิด เพราะฆ่าได้เฉพาะปลวกปลายแถว สักพักปลวกอีกชุดจะหาเส้นทางใหม่เข้ามาในบ้านของเราได้อีก วิธีกำจัดปลวก มีอยู่ 3 วิธีใหญ่ๆ

วิธีกำจัดปลวก

กำจัดปลวก
ภาพจาก https://carolinares.com/is-a-termite-letter-really-necessary/

วิธีกำจัดปลวก แบบอัดน้ำยาลงดิน

เพื่อทำให้ดินเป็นพิษจนปลวกอาศัยและเดินผ่านไม่ได้ ถือเป็นวิธีป้องกันปลวกใต้ดินที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะเราสามารถฉีดน้ำยาได้อย่างทั่วถึง โดยอัดน้ำยาลงดินตามแนวคานคอดินด้านในด้วยหัวอัดแรงสูงลึกลงไป 30 ถึง 45 เซนติเมตร และรอบๆ คานทุกระยะ 1 เมตรตามแนวยาว และฉีดน้ำยาเคลือบผิวหน้าดินทั้งหมด ทั้งภายใน ภายนอกรอบๆอาคาร แบบปูพรมครอบคลุมทุกตารางเซนติเมตร หลังจากนั้นทุก 3 – 5 ปี ต้องอัดน้ำยาใหม่โดยเจาะรูที่พื้นบ้านเป็นช่วงๆ แล้วอัดน้ำยาลงพื้นเพิ่มเติม บางบริษัทเสนอให้เดินท่อใต้พื้นเอาไว้เลย แต่ท่ออาจอุดตันหากไม่ได้ดูแล อีกทั้งบริษัทที่ไม่ใช่เจ้าที่เป็นคนวางท่อมักไม่ยอมใช้ท่อที่เจ้าอื่นทำไว้ หรือไม่รับประกันให้ ทำให้เสียเงินค่าเดินท่อไปโดยเปล่าประโยชน์

น้ำยาเคมีที่ใช้แบ่งเป็น 2 ชนิด ชนิดแรกเป็นสารกลุ่มไพรีทรอยด์ มีพิษน้อย ปลวกโดนแล้วตายทันที เรียกว่าเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กำจัดและขับไล่ หรือแบบไม่แพร่เชื้อ ชนิดที่ 2 เป็นกลุ่มออร์กาโนคลอรีน มีพิษมาก แต่ส่งผลช้า ปลวกโดนแล้วจะกลับไปตายที่รัง ปลวกตัวอื่นมากินซากก็จะตายตามเป็นลูกโซ่จนหมดรัง เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กำจัดแต่ไม่ขับไล่ หรือแบบแพร่เชื้อ แต่เคมีตัวนี้สลายตัวช้า ตกค้างในสิ่งแวดล้อม จึงไม่ค่อยอยากแนะนำให้ใช้

นอกจากสารเคมี ยังมีสมุนไพรกำจัดปลวกที่สกัดมาจากพืช เช่น ใบยูคาลิปตัส ใบเสม็ด ใบหรือเมล็ดสะเดา ใบกะเพรา เป็นต้น นำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย ออกฤทธิ์เร็ว แต่อายุใช้งานสั้นมาก จึงกำจัดปลวกไม่ค่อยได้ผล

กำจัดปลวก
ภาพจาก https://www.ecocarepest.com/termites-serious-and-destructive/

แบบวางเหยื่อล่อ

เรียกกันในวงการว่าแบบติดตั้งสถานีปลวก ในสถานีจะใส่สารเคมีที่มีฤทธิ์กำจัดแต่ไม่ขับไล่ หรือแบบแพร่เชื้อ พร้อมกับอาหารที่ปลวกชอบ มีข้อดีคือไม่ต้องเจาะพื้น แต่ข้อจำกัดคือ อาจจะไม่ได้ผลถ้าปลวกไม่เดินเข้ามาในกับดักที่วางล่อไว้ มีข้อระวังคือ น้ำที่ใช้ผสมเหยื่อล่อและยาต้องไม่ปนเปื้อนสารเคมีอื่นหรือมีกลิ่นบุหรี่ เพราะปลวกจะไม่กิน ทำให้ใช้งานไม่ได้ผล และสถานีปลวกที่วางไว้ต้องไม่ถูกรบกวนตอนที่กินเหยื่อล่อและน้ำยา ปลวกที่กินยาจะไม่ตายทันทีแต่จะกลับไปตายที่รัง และปลวกตัวอื่นจะมากินซากทำให้ตายตามกัน โดยคาดหวังว่าจะตายยกรัง

แบบใช้นักล่า

คือเลี้ยงไส้เดือนฝอย โดยไส้เดือนฝอยที่มีขนาดเล็กกว่าตัวปลวกจะเข้าไปอาศัยข้างในตัวปลวกผ่านช่องเปิดตามข้อต่อของปลวก หรือปลวกกินไส้เดือนฝอยนั้นเข้าไป ไส้เดือนฝอยจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ช่องว่างภายในตัวปลวก แล้วปลดปล่อยแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือดของปลวก แบคทีเรียจะสร้างสารพิษ มีผลทำให้ปลวกเกิดอาการเลือดเป็นพิษ หยุดนิ่ง และตายในเวลาประมาณ 6 ชั่วโมง หลังจากนั้น 3 ถึง 4 วันไส้เดือนฝอยจะขยายพันธุ์ได้ไส้เดือนรุ่นใหม่ ที่ออกจากซากปลวก เพื่อรอปลวกตัวใหม่มากินต่อไปเป็นวัฎจักรไปเรื่อย ๆ

เรื่อง วิญญู วานิชศิริโรจน์
ภาพ ไกรสิทธิ์ โภคสวัสดิ์


แก้ปัญหาปลวกในบ้านทาวน์เฮาส์

ปลวก ปัญหาของคนรักต้นไม้


เป็นเพื่อนกันเราได้ใน Line@ : https://line.me/R/ti/p/%40slo7204x