บัวลอย ขนมไทยอีกหนึ่งชนิดที่ทำทานกันได้ที่บ้านแบบง่าย ๆ ใช้เพียงส่วนผสมไม่กี่อย่างกับเวลาอีกนิดหน่อย และความสนุกในขั้นตอนของการลงมือปั้นแป้งให้เป็นลูกกลม ๆ เวลาทานก็ราดด้วยกะทิหอม ๆ เค็ม ๆ ไม่มีอะไรลงตัวไปกว่านี้อีกแล้วหละค่ะ
แต่เข้าครัวทำขนมกับ my home ทั้งที่จะมาทำ บัวลอย แบบเดิม ๆ อยู่ได้ยังไงหละคะ วันนี้ขอมาสายหวานมาเพิ่มความน่ารักกุ๊กกิ๊กให้เมนูเบสิค ๆ อย่างบัวลอยให้ออกไปเฉิดฉายแบบน่าทาน แถมด้วยความน่ารัก จนอดใจไว้ไม่อยู่ต้องรีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปไปอวดเพื่อน ๆให้ไวกับเมนู บัวลอยดอกไม้ วิธีการทำและส่วนผสมจะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ
ส่วนผสมของบัวลอยดอกไม้
แป้งบัวลอย
- แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
- เผือก 1 ถ้วย
- กะทิ (อุ่นร้อน) 3 ช้อนโต๊ะ
- สีผสมอาหาร
น้ำกะทิ
- น้ำกะทิ 3 ถ้วย
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1-2 ช้อนชา
- กลิ่นใบเตย 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. บดเผือกให้ละเอียด นวดเผือกกับแป้งข้าวเหนียว ค่อย ๆ เติมน้ำกะทิอุ่น นวดให้เข้ากันจนเนื้อเนียน ถ้าแป้งแห้งไปสามารถเติมน้ำกะทิได้ หรือถ้าแป้งแฉะไปก็สามารถเติมแป้งข้าวเหนียวได้
2 . แบ่งแป้งออกเป็นก้อน ๆ ตามจำนวนสีที่ต้องการผสม ค่อย ๆ หยดสีผสมอาหารลงในแป้งแต่ละก้อน และนวดให้สีเท่ากันทั้งก้อน (พักแป้งที่เหลือไว้ในชาม คลุมด้วยฟิล์มถนอมอาหารเพื่อไม่ให้แป้งแห้ง)
3 . ปั้นแป้งที่ผสมสีเสร็จแล้วเป็นทรงกลม ค่อย ๆ ใช้ไม้คลึงคลึงแป้งเป็นแผ่นหนาประมาณ 1-2เซนติเมตร นำพิมพ์กดลงบนแป้ง แล้วใช้ตะเกียบดันแป้งออกมาจากพิมพ์ ทำซ้ำจนครบทุกสี (พักแป้งที่กดเสร็จแล้วไว้ในถาด คลุมด้วยฟิล์มถนอมอาหารเพื่อไม่ให้แป้งแห้ง)
4 . ต้มน้ำในหม้อจนเดือด แล้วนำแป้งที่กดเสร็จแล้วลงไปต้มจนแป้งสุก สังเกตว่าแป้งจะลอยตัวขึ้นมา ตักแป้งออกมาแช่ในน้ำเย็น พอคลายร้อนแล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
5 . ต้มน้ำกะทิ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือ และกลิ่นใบเตยด้วยไฟปานกลาง (หมั่นคนตลอดเวลาเพื่อไม่ให้กะทิแตกมัน) ปรุงรสชาติเพิ่มได้ เน้นหวานมัน เค็มเล็กน้อยคนจนน้ำตาลละลายแล้วจึงใส่บัวลอยที่ต้มสุกแล้วลงไปต้มต่อให้เดือดอีกครั้ง จากนั้นลดไฟลง เติมหัวกะทิต้มต่อให้ร้อนพอขึ้นไอ ยกลงจากเตา เสิร์ฟร้อน ๆ
tips
- สามารถใช้พิมพ์กดขนาดเล็กรูปอื่นได้ตามใจชอบหาซื้อพิมพ์กดได้ตามร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ทั่วไป
- ใช้น้ำกะทิแบบอุ่น ๆ นวดแป้งจะทำให้บัวลอยเนียนนุ่มกว่าใช้น้ำเย็น
Story , Style : pattypitchaya
Photo : อุ้ม เชาวปรีชา
น้ำตาลสำหรับทำอาหารมีกี่ชนิด แล้วมีอะไรบ้าง