คาเฟ่น่ารัก ที่เป็นทั้งบ้าน และร้านอาหารแสนอบอุ่น

บ้านเป็นอะไรได้มากกว่าบ้านจริงหรือไม่ วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อมกัน กับ 4 คาเฟ่น่ารัก ที่เนรมิตให้บ้านเป็นพื้นที่ที่ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า แถมยังสร้างรายได้ให้กับเจ้าบ้านอีกด้วย จะมีที่ไหนบ้าง ตามมาเก็บไอเดียกับ my home กันเลยจ้า

ไม่น่าเชื่อเลยว่า บ้านหน้าตาธรรมดา ๆ จะเป็นได้มากขนาดนี้ ที่สำคัญนอกจากไอเดียในการสร้างสรรค์พื้นที่ให้มีความหลากหลายคุ้มค่าแล้ว ยังได้ทำในสิ่งที่ฝัน ได้อยู่กับงานที่รัก และได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รักอย่างมีความสุข คาเฟ่น่ารัก ๆ จะมีร้านไหนบ้าง ไปดูกัน

1. homu บ้านขนมโฮมเมดสไตล์ญี่ปุ่น

คาเฟ่น่ารัก หลังแรกเริ่มต้นกันที่ homu บ้านขนมโฮมเมดสไตล์ญี่ปุ่นในฝัน โดยคุณหญิง – เปมิกา ธนล้ำเลิศกุล คุณแม่2018 หรือเรียกง่าย ๆ ว่าแม่บ้านยุคใหม่ เป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ในบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาด 28 ตารางวา ที่แฝงตัวอยู่หลังกำแพงรั้วสีเขียวธรรมชาติ โดยมีการต่อมุมข้างบ้าน ให้เป็นร้านขนมเล็ก ๆ สไตล์โฮมเมด บนเนื้อที่ เพียง 9 ตารางเมตร รวมถึงเปิดบริเวณชั้น 1 ของบ้านเพื่อรองรับลูกค้า ให้ได้มาสัมผัสรสขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม รวมถึงมีพื้นที่ให้กับลูก ๆ ได้เล่นสนุก และมีความสุขไปพร้อม ๆ กัน

“สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตหญิงก็คือลูก หญิงจึงพยายามที่จะปฏิวัติ และเปิดช่องทางให้กับวงการคุณแม่ยุคใหม่ว่าไม่จำเป็นต้องทำงานนอกบ้าน ก็สามารถทำงานหารายได้เข้าบ้านได้ รวมถึงสร้างความสมดุลของชีวิตครอบครัวได้แบบไม่ตกหล่นไปพร้อม ๆ กัน แถมยังไม่เครียดและมีความสุขไปกับทุกคนในบ้านอีกด้วย” คุณหญิงเจ้าของบ้านกล่าว

มุมข้างบ้านถูกออกแบบไว้สำหรับเป็นพื้นที่ชงกาแฟ มีลักษณะเป็นบ้านสี่เหลี่ยมทรงกล่อง โดดเด่นด้วยการเลือกใช้ไม้ เป็นวัสดุหลัก เว้นช่องแสงให้ มองเห็นด้านใน พร้อมกับเพิ่มบันไดวนสู่ดาดฟ้า ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายความอบอุ่น

บรรยากาศภายในร้านดูเรียบง่ายและเป็นกันเอง ด้วยการใช้วัสดุอย่างไม้ อิฐมอญทาสีขาว และพื้นซีเมนต์ขัดมัน ช่วยให้ร้านดูอบอุ่นและมีเสน่ห์ พร้อมเพิ่มรายละเอียดด้วยของประดับ อาทิ ชิงช้า โคมไฟ และการจัดสวนไม้แขวน ห้อยมาจากรางไม้ที่ทำขึ้นเอง เชื่อมต่อกับบริเวณสวนที่ออกแบบให้เป็นมุมนั่งกินขนมแบบเอ๊าต์ดอร์ พร้อมกับมีมุมดาดฟ้าที่จัดวางเบาะนุ่ม ๆ ให้นั่งกันชิล ๆ อีกด้วย

>>homu<<

โทร. : 089 792 6496

Facebook : homu

2. Wie Immer ตึกแถวที่เป็นได้หลากหลายฟังก์ชั่น

“Wie Immer” ชื่อของบ้านตึกแถวสีขาวไซส์มินิ ที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ โดยเกิดจากการนำบ้านเก่าที่มีเรื่องราวความทรงจำดี ๆ ในวัยเด็กของ คุณหง – วิรัลพัชร นารานิติธรรม Lighting Designer มารีโนเวตใหม่ ให้กลายเป็นพื้นที่แบบมัลติฟังก์ชันที่สามารถใช้งานได้หลากหลายในพื้นที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักส่วนตัว โฮมออฟฟิศ โฮมสเตย์ คาเฟ่ รวมถึงพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านดีไซน์ที่เรียบง่าย แฝงความอบอุ่นที่สัมผัสได้เมื่อแรกเห็น

“งานรีโนเวตตึกแถวเก่าส่วนใหญ่จะมีปัญหาที่อยู่บริเวณกลางบ้านเป็นห้องที่มืดเพราะไม่มีหน้าต่าง หรือช่องแสง และเนื่องจากเราเปิดให้บ้านหลังนี้เป็นพื้นที่ของลูกค้าด้วย หงจึงพยายามออกแบบให้ทุกพื้นที่ ภายในบ้านหลังนี้ได้รับแสงธรรมชาติที่พอดี บวกกับการเลือกใช้สีขาวเป็นสีหลักในการตกแต่ง เพราะสีโทนสว่างจะทำให้บ้านดูกว้างขึ้น คนที่เข้ามาจะได้ไม่รู้สึกอึดอัด” คุณหงกล่าว

บรรยากาศภายในร้านตกแต่ง สไตล์มินิมัล เรียบง่ายแต่แฝง ลูกเล่นน่ารัก ๆ ตัวร้านสูงโปร่ง บริเวณหลังคาเลือกใช้แบบโปร่งแสง ทำให้แสงธรรมชาติจากด้านนอกส่องลงมา เหมือนนั่งจิบกาแฟชิล ๆ อยู่ในเรือนกระจก พร้อมตกแต่งด้วยไม้และกระเบื้องลายโบราณเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นละมุนตา เชื่อมต่อไปยังบริเวณด้านหลังจั ดเตรียมไว้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น แกลเลอรี่แสดงงานศิลปะ และมุมเวิร์คช็อปโยคะ

บริเวณชั้น 2 เป็นส่วนของออฟฟิศ Lighting Design สามารถมองเห็นด้านล่างและเปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเพียงพอ เชื่อมด้วยห้องนอนส่วนตัวของเจ้าของที่ออกแบบมาได้อย่างน่ารัก รวมถึงบริเวณชั้น 3 ที่ออกแบบให้เป็นห้องพักแบบโฮมสเตย์ ซึ่งแต่ละห้องตกแต่งในโทนสีขาว ผสมเฟอร์นิเจอร์ไม้ ดูอบอุ่นน่าพักผ่อน

>>Wie immer<<

โทร. : 092 946 2285

Facebook : Wie immer Bangkok

3. Wood cafe บ้านไม้ในสวนที่ได้ชื่อว่าเป็นบ้านก้นครัว

จุดเริ่มต้นของบ้านก้นครัวมาจาก คุณอุ้ย กับ คุณแป๋ม สองเพื่อนซี้ที่มีความชอบคล้าย ๆ กัน คนหนึ่งชอบทำอาหาร อีกคนหนึ่งชอบทำขนม จึงร่วมกันสานฝันให้พื้นที่แห่งนี้เป็นทั้งบ้านและร้านอาหารไปพร้อม ๆ กัน “wood cafe” บ้านไม้สไตล์เมดิเตอร์เรเนียนผสมคันทรี่ที่นอกจากจะเป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ยังเป็นคาเฟ่แสนน่ารัก เปิดให้คนได้มาสัมผัสชีวิตเรียบง่าย ซึ่งการออกแบบได้แรงบันดาลใจจากชนบทของต่างประเทศผสมผสานกับความเป็นไทยได้อย่างลงตัว

เริ่มต้นกันที่บริเวณหน้าบ้าน ออกแบบให้เป็นรั้วต้นไทรเกาหลีสีเขียวสด พอเปิดประตูเข้าไปจะพบกับบรรยากาศภายในดูเป็นส่วนตัว ตัดความวุ่นวายจากโลกภายนอก เพราะนอกจากรั้วต้นไม้ที่บดบังแล้ว ยังมีตัวอาคารที่ใครเห็นแล้วก็ต้องร้องว้าว! เพราะด้วยสไตล์ที่ผสมระหว่างตะวันตกกับตะวันออกได้อย่างลงตัว ไม่ว่าสีของไม้ที่ดูอบอุ่นสไตล์คอตเตจ หรือจะเป็นโครงสร้างใต้ถุนสูง ในรูปแบบไทย ๆ ก็ดูเข้ากันไม่ขัดตา

ที่นี่แบ่งออกเป็น 4 โซนหลัก โซนแรกที่เข้ามาเป็นโซน เอ๊าต์ดอร์ ซึ่งตกแต่งเหมือนเป็นที่นั่งเล่นแบบชานบ้าน สามารถมองเห็นสวนอันร่มรื่น โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า ผสมกับดอกไม้แห้ง และของตกแต่งน่ารัก ๆ เชื่อมต่อกับโซนอื่นๆอย่าง โซนคาเฟ่ โซนอาหาร

รวมไปถึงบ้านพักส่วนตัวของคุณอุ้ยที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด ถูกออกแบบให้มีดีไซน์เดียวกับส่วนอื่น ๆ แต่เพิ่มความเป็นส่วนตัว จึงมีประตูที่ดูมิดชิด ภายในแบ่งออกเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นชานบ้านที่ออกแบบให้ดูมีกลิ่นอายไทย ๆ เชื่อมต่อส่วนนอนด้วยประตูและหน้าต่างไม้ขัดเนื้อด้านบานใหญ่ ประดับด้วยดอกไม้เพิ่มความสดใส มีโคมไฟฟรีฟอร์มรูปร่างแปลกตาที่ทำจากไม้ คอยให้แสงสว่างนวล ๆ น่าพักผ่อน

คุณอุ้ยเล่าว่า “พื้นที่แห่งนี้เป็นเป็นบ้านที่รวมความฝันและความชอบของพี่ไว้ทั้งหมด จะชอบทำอาหารและเป็นคนรักสุขภาพ ชอบรับประทานผัก เหตุผลที่เราชอบอาจเป็นเพราะได้เห็นคุณแม่ทำมาตั้งแต่เด็ก ๆ รวมถึงชอบที่จะได้ลงมือตกแต่งบ้านให้เป็นในรูปแบบที่เราต้องการ มันท้าทายและมีความสุขมาก ๆ ที่ได้รวมความชอบทั้งหมดมาอยู่ในพื้นที่เดียวกันค่ะ”

>>Wood Cafe<<

โทร. : 095 807 7555

Facebook : Wood Cafe

4. 382 SPACE คาเฟ่กลางสวนธรรมชาติ

382 SPACE บ้านและคาเฟ่เล็ก ๆ ที่อยู่ในรั้วเดียวกับบ้านหลังเก่าในชีวิตวัยเด็กของคุณเน็ต – วาฑิต ตั้งใจ เป็นบ้านที่ถูกฟูมฟักมาจากคุณเน็ตและภรรยาสาวคนสวย คุณฮุ้ง – ศันสนีย์ แสงบัณฑิต โดยเริ่มจากการสร้างบ้านไม้ 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้สไตล์ลอฟต์ผสมสแกนดิเนเวียน โดยออกแบบให้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและเปิดเป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ท่ามกลางสวนธรรมชาติ รอต้อนรับทุกคนที่พร้อมจะมาแลกเปลี่ยนและแชร์ประสบการณ์ร่วมกันอีกด้วย

“บ้านหลังนี้ผม ฮุ้ง และคุณพ่อ ช่วยกันสร้างช่วยกันตกแต่ง โดยเอาความรู้ทางด้านศิลปะมาประยุกต์ใช้ บวกกับอาศัยความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับงานช่างมาออกแบบตามฟังก์ชันที่ใช้จริง ๆ เน้นใช้พื้นที่นั้นร่วมกันกับบ้านหลังเดิม และวัสดุส่วนใหญ่เป็นไม้เก่าที่มีอยู่เป็นหลัก ที่สำคัญผมอยากให้บ้านหลังนี้เป็นที่รวบรวมความฝัน และความชอบไว้ทั้งหมด จึงเกิดไอเดียที่จะเปิดเป็นคาเฟ่ควบคู่ไปด้วยครับ เพราะนอกจากจะเกิดประโยชน์จากการอยู่อาศัย บ้านหลังนี้ก็มีมูลค่าที่สามารถสร้างรายได้ ที่ถึงแม้จะไม่มาก แต่กลับได้ความสุขมากขึ้น”

ตัวบ้านเน้นความโปร่งโล่งด้วยตัวอาคารทรงสูง ทำให้ลมพัดผ่านได้สะดวก และแฝงความอบอุ่นแบบกลิ่นอายชนบทจากไม้ที่นำมาเพิ่มดีเทลให้บ้านดูพิเศษ บวกกับการออกแบบที่เน้นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ โดยปรับโครงสร้างของอาคารให้เข้ากับพื้นที่ ไม่ทำลายต้นไม้ใหญ่ให้เสียความสมดุล

บริเวณชั้นหนึ่งเป็นส่วนของร้านกาแฟ ภายในตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียล โดดเด่นด้วยการโชว์เนื้อแท้ของวัสดุ เช่น ไม้ ปูนขัดมัน อิฐโชว์แนว อีกทั้งยังเน้นการเปิดโล่งด้วยการกรุกระจกใสโดยรอบ ให้สัมผัสกับธรรมชาติและแสงแดดอุ่น ๆ จากดวงอาทิตย์ได้ตลอดวัน

ส่วนชั้น 2 เป็นส่วนพักผ่อนของคุณเน็ตและคุณฮุ้ง มีฟังก์ชันการใช้งานที่จัดวางแบบ โอเพ่นแปลน รวมทุกการใช้งานไว้ด้วยกัน และหลีกเลี่ยงการกั้นผนัง ทำให้ห้องดูกว้างและมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น ตกแต่งในโทนสีขาว โชว์โครงสร้างหลังคาสูง และมีหน้าต่างกว้าง ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เย็นสบาย