ประเภทของน้ำตาล

หวานนี้มีที่มา..มาดูกันว่า ชนิดของน้ำตาล มีอะไรบ้าง

ประเภทของน้ำตาล
ประเภทของน้ำตาล

ใครรู้บ้างว่า ชนิดของน้ำตาล มีอะไรบ้าง แล้วแต่ละชนิดมีที่มาที่แตกต่างกันอย่างไร คนรักของหวานๆเป็นชีวิตจิตใจอย่างเราจะได้รู้ไว้ แล้วนำไปใช้ให้ถูกกับอาหารแต่ละชนิด เพื่อความอร่อยหอมหวานที่มากยิ่งขึ้นค่ะ

น้ำตาลกับชีวิตประจำวันของเรานั้นสนิทกันจนแยกกันแทบไม่ออก เราสามารถเจอน้ำตาลได้ในทุกๆที่ ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารทั้งคาวและหวาน เครื่องดื่ม รวมไปถึงขนมชนิดต่างๆด้วย ซึ่งน้ำตาลนอกจากจะให้ความหวานแล้ว ยังให้พลังงานแก่ร่างกายอีกด้วย (น้ำตาล 1 กรัมมีพลังงาน 4 แคลอรี่) ลองสังเกตดูว่า เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลผ่านมื้ออาหารหรือเครื่องดื่มชนิดต่างๆ จะรู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวยขึ้นมาเลยค่ะ น้ำตาลที่มีวางขายในท้องตลาดก็มีหลากหลายประเภท น้ำตาลแต่ละประเภทก็มีที่มาที่ไป และความเหมาะสมในการปรุงอาหารที่แตกต่างกัน วันนี้ my home จะมาบอกถึงที่มาและ ชนิดของน้ำตาล กันค่ะ เวลาแม่ฝากซื้อจะได้ไม่ซื้อผิดด้วยนะ

น้ำตาลทรายขาว (Plantation , mill white sugar)

ชนิดของน้ำตาล

น้ำตาลทรายขาวเป็นน้ำตาลที่ได้จากการสกัดเอาสิ่งเจือปนออกจากน้ำตาลทรายดิบ สีของน้ำตาลทรายขาวนั้นมีตั้งแต่สีขาวไล่เรียงไปถึงสีเหลืองอ่อน เมื่อใช้มือสัมผัสจะรู้สึกถึงความชื้นเล็กน้อย เกล็ดของน้ำตาลจับตัวไม่แน่น น้ำตาลทรายขาวมีคุณค่าทางโภชนา 1 ช้อนชาอยู่ที่ 15 กิโลแคลอรี่ นิยมใช้ในครัวเรือนอย่างแพร่หลายรวมไปถึงอุตสาหกรรมการผลิตอาหารสำเร็จรูป และน้ำอัดลม

น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์  (Refined sugar)

ชนิดของน้ำตาล

น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ แค่ชื่อก็รับประกันความขาว ความใสสุดๆ น้ำตาลชนิดนี้เป็นน้ำตาลที่มีความบริสุทธิ์สูงมาก ผลึกน้ำตาลเป็นเกล็ดใส สีขาว ปราศจากสีของกากน้ำตาลให้กวนใจ เมื่อใช้มือสัมผัสแทบจะไม่มีความชื้นอยู่เลย เป็นน้ำตาลอีกชนิดที่นิยมใช้กันทั่วไปทั้งในร้านอาหาร ในครัวเรือน รวมไปถึงอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้น้ำตาลที่มีความบริสุทธ์มากอย่างเช่น เครื่องดื่มน้ำอัดลม เครื่องดื่มบำรุงกำลัง รวมไปถึงอุตสาหกรรมยาด้วย

น้ำตาลทรายธรรมชาติ (Natural Sugar)

ชนิดของน้ำตาล

น้ำตาลทรายธรรมชาติเป็นน้ำตาลที่ได้จากอ้อย 100% โดยผ่านกระบวนการชีววิธีแทนการใช้สารเคมี ไม่ผ่านการฟอกสี สีของเกล็ดน้ำตาลธรรมชาติจะออกไปทางน้ำตาลใสๆ คล้ายสีชา เมื่อใช้มือสัมผัสรู้สึกถึงความชื้นเล็กน้อย เกล็ดของน้ำตาลจับตัวกันไม่แน่นมาก มีรสชาติหวานละมุนกว่าน้ำตาลทรายขาวที่รสจะออกไปทางหวานแหลม สามารถใช้ปรุงได้ทั้งเมนูของคาวและของหวาน รวมไปถึงเครื่องดื่มด้วย

น้ำตาลทรายแดง (Soft brown sugar)

ชนิดของน้ำตาล

น้ำตาลทรายแดงเป็นน้ำตาลที่ได้จากน้ำอ้อยแบบเดียวกับน้ำตาลทรายธรรมชาติ แต่น้ำตาลทรายแดงนั้นลักษณะเป็นผงละเอียด มีกลิ่มหอมเฉพาะตัว ให้ความหวานน้อยกว่าน้ำตาลทรายขาว มีความชื้นสูงจึงมักจะจับตัวกันเป็นก้อน สีของน้ำตาลทรายแดงจะมีสีน้ำตาลอ่อนไล่ไปถึงสีน้ำตาลอมแดงขึ้นอยู่กับปริมาณของกากน้ำตาลที่ผสมอยู่ ถ้ามีกากน้ำตาลปะปนอยู่มากสีก็จะเข้มขึ้น รวมไปถึงรสชาติและกลิ่นก็จะชัดเจนตามไปด้วยค่ะ น้ำตาลทรายแดงมีสรรพคุณช่วยบำรุงกำลัง ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกมากขึ้น และยังช่วยลดอาการปวดด้วยค่ะ น้ำตาลทรายแดงมักจะนิยมใช้ในอุตสาหกรรมผลิตซีอิ๊ว ผลิตน้ำตาลมะพร้าว รวมไปถึงผสมในอาหารและขนมหลากหลายชนิดเช่น ถั่วเขียวต้มน้ำตาล เต้าฮวย และเฉาก๊วย

น้ำตาลโตนด

ชนิดของน้ำตาล

หรือเรียกอีกอย่างว่า น้ำตาลหม้อ เป็นน้ำตาลที่ได้มาจากน้ำหวานของช่อดอกต้นตาล นำมาเคี่ยวจนงวด จากนั้นหยอดลงแม่พิมพ์ สีของน้ำตาลโตนดแท้จะออกไปทางน้ำตาลแดง เนื้อสัมผัสละเอียด และเมื่อโดนความร้อนก็จะคืนตัวกลับไปเหลวได้ง่าย รสของน้ำตาลโตนดจะออกรสหวานชัดเจน หอมนุ่มละมุนกว่าน้ำตาลทรายมาก จึงนิยมนำมาทำอาหารทั้งคาวและหวานอย่างเช่น กล้วยบวชชี ลอดช่อง หรือจะใส่ในแกง หรือน้ำพริกกะปิก็ได้ค่ะ

น้ำตาลอ้อย

ชนิดของน้ำตาล

น้ำตาลอ้อยเป็นน้ำตาลที่ได้จากการนำลำอ้อยสดมารีดเอาน้ำออก แล้วจึงนำน้ำอ้อยนั้นไปเคี่ยวในกระทะใบบัวจนเหนียวได้ที่ จากนั้นเทลงพิมพ์ พักไว้จนน้ำตาลเย็นตัวและจับตัวเป็นก้อน สีและลักษณะของเนื้อสัมผัสไม่ต่างจากน้ำตาลโตนดมากนัก คือให้สีน้ำตาลนวลๆไล่ไปจนถึงน้ำตาลแดง เนื้อสัมผัสละเอียด คืนตัวง่ายเมื่อสัมผัสกับอากาศร้อน มีความหวานน้อยกว่าน้ำตาลโตนดแต่หวานมากกว่าน้ำตาลมะพร้าวนิดหน่อย และเนื่องด้วยน้ำตาลอ้อยนั้นมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่น้ำตาลโตนดและน้ำตาลมะพร้าวไม่มี น้ำตาลอ้อยจึงนิยมนำไปใช้ในปรุงอาหารที่เน้นความหอมของเครื่องเทศเป็นหลัก เพราะน้ำตาลอ้อยจะช่วยขับกลิ่นเครื่องเทศในอาหารได้ดีกว่าน้ำตาลชนิดอื่นๆ แถมยังอุดมไปด้วยกากใยอาหารจำนวนมากอีกด้วย

น้ำตาลมะพร้าว

ชนิดของน้ำตาล

น้ำตาลมะพร้าวเป็นน้ำตาลที่ได้จากน้ำตาลสดที่รองมาจากงวงมะพร้าว หรือช่อดอกของต้นมะพร้าว แล้วนำมาเคี่ยวจนเดือด ลักษณะของน้ำตาลมะพร้าวจะเป็นก้อนแข็งสีน้ำตาลนวล เนื่องด้วยน้ำตาลมะพร้าวยังมีน้ำผสมอยู่ จึงเกิดความชื้นได้ง่าย และสามารถคืนตัวกลับไปเหลวเป็นน้ำเหนียวๆได้ง่ายเมื่อโดนความร้อน  แถมสีก็เข้มขึ้นด้วย  รสชาติของน้ำตาลมะพร้าวจะมีความหวานน้อยกว่าน้ำตาลทราย แต่มีความหอมมันที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่ น้ำตาลมะพร้าวจึงนับว่าเป็นน้ำตาลพื้นบ้านที่อยู่คู่ครัวไทยมานาน นิยมนำมาใช้ในการปรุงอาหารและทำขนมไทย

น้ำตาลกรวด (Crystalline sugar)

ชนิดของน้ำตาล

น้ำตาลกรวดเป็นน้ำตาลที่ได้จากน้ำเชื่อมของอ้อย หรือ ได้จากการนำน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์มาละลาย โดยผ่านกระบวนการตกผลึกอย่างช้าๆ ไม่มีการฟอกสี ลักษณะของน้ำตาลกรวดจึงเป็นก้อนเหลี่ยมๆคล้ายกับสารส้ม มีสีขาวค่อนข้างใส มีรสหวานกลมกล่อม แต่หวานน้อยกว่าน้ำตาลทรายขาว ปัจจุบันนิยมใช้น้ำตาลกรวดกับเมนูอาหารที่ต้องการความพิถีพิถันในการปรุงเป็นพิเศษเช่น การเชื่อมผลไม้ การตุ๋นรังนก รวมไปถึงการต้มยาจีนอีกด้วย

น้ำตาลไอซิ่ง  (Icing sugar)

ชนิดของน้ำตาล

หรือเรียกว่า Powdered Sugar, Confectioner’s sugar ก็ได้เหมือนกันค่ะ น้ำตาลไอซิ่งได้มาจากการบดน้ำตาลทรายขาวให้ละเอียด จนมีลักษณะเป็นผงสีขาวคล้ายแป้ง มีการเติมส่วนผสมของแป้งข้าวโพด หรือแป้งมันสำมะหลังเข้าไปในกระบวนการผลิตน้ำตาลไอซิ่ง เพื่อช่วยลดการจับตัวเป็นก้อน เนื่องด้วยลักษณะของน้ำตาลไอซิ่งเป็นผงคล้ายแป้งจึงทำให้น้ำตาลไอซิ่งละลายน้ำได้ดีเยี่ยม ไม่ตกตะกอนหรือทิ้งผลึกไว้เลย ในการทำขนมหรือเบเกอรี่ชนิดต่างๆ น้ำตาลไอซิ่งจึงมักจะได้เป็นพระเอกอยู่เสมอๆ ทั้งผสมกับส่วนผสมอื่นๆ และการตกแต่งโรยหน้าขนมอบต่างๆด้วยค่ะ

น้ำตาลก้อน (Cube sugar)

ชนิดของน้ำตาล

หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำตาลปอนด์ ลักษณะของน้ำตาลก้อนนั้นเป็นก้อนสีเหลี่ยม เกิดจากการอัดน้ำตาลทรายขาวให้เป็นก้อนแข็งๆ แล้วอบด้วยความร้อนจากแสงอินฟาเรดเพื่อลดความชื้นในน้ำตาล ให้คงเหลือไว้เพียง 0.5 – 1 % เท่านั้น จากนั้นค่อยเป่าด้วยลมเย็น ปัจจุบันนิยมใช้น้ำตาลก้อนกับเมนูเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟค่ะ

เรื่อง : ออ – ร – ญา

ภาพ : ศุภวรรณ สอาด

สไตล์ : แชร์ สวนผัก


อ่านเรื่องอื่นๆเพิ่มเติม

Types Of PASTA มารู้จัก เส้นพาสต้า กันเถอะ

กินน้ำตาล อย่างไร ไกลโรคอ้วน เบาหวาน