หลง (ใหล) ในป่า

วันนี้เรามีนัดกับ คุณบอย – สุรพงค์ โอวรารินท์ นักจัดสวนจาก Scenery Concept Landscape Design & Contractor ที่บ้านหลังหนึ่งในย่านปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เราเดินทางมาถึงก่อนเวลานัดหนึ่งชั่วโมงเพื่อสัมผัสความสดชื่นของสวนในยามเช้า ประจวบเหมาะกับช่วงเวลานั้นระบบรดน้ำอัตโนมัติทำงานพอดี บรรยากาศรอบตัวจึงเหมือนมีฝนตกพรำๆ อากาศเย็นและชื้น มองเห็นละอองน้ำเกาะพราวอยู่ตามใบไม้ การได้อยู่ภายใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่ ฟังเสียงนกร้องคลอไปกับเสียงน้ำไหล นี่แหละคือสวรรค์ของคนรักธรรมชาติอย่างแท้จริง “ผมอยากได้สวนอารมณ์แนวป่าๆ มีต้นไม้เยอะ ดูเขียวๆ ร่มรื่น เห็นแล้วสบายตา” คุณหมี – สกนธ์ ตันโชติกุล เจ้าของบ้านกล่าว ก่อนจะเล่าต่อว่า “น้ำตกกับบ่อปลาเพิ่งมาเพิ่มทีหลัง เนื่องจากกังวลว่าตัวเองจะไม่ค่อยมีเวลาดูแลมากนัก เลยขอให้คุณบอยทำเป็นลานสนามหญ้าไปก่อน ซึ่งเขาก็แนะนำเราตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าบริเวณนี้เป็นพื้นที่ร่ม แสงอาจไม่เพียงพอสำหรับหญ้า แต่ขอเขาไว้ว่าลองดูก่อน ผลปรากฏว่าอยู่ได้แค่ไม่กี่เดือนก็ตายเรียบ (หัวเราะ) ครั้งที่สองคุณบอยเลยเสนอทางเลือกให้ว่าอยากเปลี่ยนเป็นอะไร ระหว่างพื้นกรวด ลานกิจกรรม หรือบ่อปลา คิดอยู่สักพัก ไหนๆ จะทำทั้งที ขอทำในสิ่งที่ตัวเองชอบก็แล้วกัน ตัดสินใจเลือกทำบ่อปลาแทน ผู้ออกแบบก็ทำออกมาได้สอดรับกับแนวสวนของเรามาก เป็นน้ำตกสองชั้นคล้ายลำธารไหลต่อเนื่องไปยังมุมศาลานั่งเล่น” คุณบอยกล่าวเสริมว่า “ศาลากับผนังน้ำตกเป็นของแถมมาพร้อมกับบ้าน ที่เหลือรื้อออกหมด แต่เก็บไม้ใหญ่อย่างคูนและชงโคไว้สองต้น […]

Jungle Book ป่าศึกษา

หลายคนคงได้ยินข่าวคราวของ “โครงการป่าในกรุง” โดย ปตท. ผ่านสื่อหลายแขนงกันมาพอสมควร บางคนอาจกำลังตัดสินใจว่าควรไปชมดีหรือไม่ ครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่ผมได้ไปเยือนและเก็บภาพรวมของโครงการดังกล่าวมาฝากคุณผู้อ่านทุกท่านกันครับ โครงการป่าในกรุงตั้งอยู่บนถนนสุขาภิบาล 2 ในเขตชานเมืองของกรุงเทพมหานคร บนพื้นที่กว่า 12 ไร่ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องการปลูกป่าตามวิถี ปตท. ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่เกิดจากการปลูกป่า 1 ล้านไร่ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 ให้แก่ประชาชนทั่วไปและนักศึกษาที่สนใจ ทันทีที่เข้ามาภายในโครงการผมรู้สึกได้ถึงความเย็นสบายจากพื้นดินชุ่มน้ำใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ แตกต่างกับความร้อน จากไอแดดของถนนคอนกรีตด้านนอก พื้นทางเดินหญ้าสีเขียวทอดนำไปสู่ทางเดินที่ขนาบด้วยนิทรรศการเมล็ดพันธุ์แห่งป่าที่จัดวางตลอดแนวผนังดินบดอัดสีสวย ก่อนนำไปสู่อาคารนิทรรศการที่จัดแสดงนิทรรศการน่าสนใจมากมาย ตั้งแต่บอกเล่าถึงสภาพป่าเดิมในกรุงเทพมหานคร อันเป็นที่มาของชื่อย่านต่างๆ ไปจนถึงห้องฉายภาพยนตร์ปลุกจิตสำนึกเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมในเมือง อาคารแห่งนี้ยังมีพื้นที่ดาดฟ้าซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันความร้อนให้เข้าสู่ตัวอาคารน้อยลง และยังเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์ของโครงการอีกจุดหนึ่งด้วย ส่วนพื้นที่ภายนอกจัดเป็นสวนป่าเลียนแบบระบบนิเวศเดิมของพื้นที่บริเวณนี้คู่กับบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่จัดให้มีระบบหมุนเวียนน้ำและความลึกในระดับต่างกัน เพื่อให้เกิดลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่พื้นที่ริมน้ำ ป่าน้ำตก เขาหินปูน ป่าดิบลุ่มไปจนถึงป่าเบญจพรรณ โดยเราสามารถศึกษาระบบนิเวศต่างๆ ในป่าได้จากการเดินบนทางเดินชมเรือนยอด (skywalk) อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญและน่าสนใจไม่น้อยคือลักษณะและรูปแบบการสร้างป่านิเวศตามแนวคิดของ ศาสตราจารย์ ดร.อาคิระ มิยาวากิ ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 – 3 ปีในการสร้างป่าที่สมบูรณ์ มีหลักการง่ายๆ ที่สามารถทำตามได้ไม่ยาก เริ่มต้นจากการสร้างเนินดินและเตรียมดิน โดยดินชั้นล่างเป็นดินเหนียวที่มีความเป็นกรดเล็กน้อย จากนั้นถมดินชนิดเดิมแต่ผสมทรายขี้เป็ดในอัตราส่วน […]

วิลล่าสุขเสรี บ้านหลังนี้เพื่อครอบครัว

นิยามของบ้านที่หรูหราในความคิดของบางคนอาจเป็นเรื่องของงานออกแบบที่ดูวิบวับฟู่ฟ่าหรือมีความซับซ้อนจนดูน่าเกรงขาม แต่สำหรับ คุณวัชราวุธ วิคเตอร์ สุขเสรี กงสุลกิตติมศักดิ์แห่งราชอาณาจักรสวีเดน และผู้จัดการทั่วไปโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน กลับมองว่าความหรูหราของบ้านคือความรู้สึกที่อยู่สบายปลอดโปร่ง มองเห็นธรรมชาติ และอุ่นอวลพร้อมหน้าไปกับคนในครอบครัว นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขามองหาที่ดินสำหรับสร้างบ้านพักตากอากาศขนาดใหญ่เพื่อรองรับทุกคนในครอบครัว โดยใช้เวลากว่า 2 ปีตระเวนหาที่ดินอันเหมาะสม จนมาพบทำเลที่ทุกคนในบ้านถูกใจ ด้วยระยะทางที่ห่างจากทะเลเพียง 20 เมตร จึงสามารถสัมผัสถึงเสียงคลื่น ลมทะเล และความสดชื่นจากธรรมชาติรอบตัวได้ดี “ผมทำงานอยู่ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน นับตั้งแต่โรงแรมเริ่มก่อสร้าง จนถึงวันนี้ก็ 26 ปีแล้ว รวมกับประสบการณ์การเดินทางไปทำงานกับโรงแรมอีกหลายแห่งทั่วโลก ทำให้ผมมีภาพของบ้านพักผ่อนหลังนี้อยู่ในความคิดค่อนข้างชัดเจนตั้งแต่แรกเมื่อมาเห็นที่ดิน คือมองเอาไว้ต่างจากความคลาสสิกของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อย่างสิ้นเชิง เพราะผมต้องการบ้านหลังใหญ่ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถใกล้ชิดกันได้ด้วย แต่ขณะเดียวกันก็มีพื้นที่แยกส่วนตัวรูปแบบบ้านเป็นสไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพรารี ซึ่งลักษณะที่ดินนั้นยาวและลึกมากเกือบ 100 เมตร บนพื้นที่ 2 ไร่ เลยเป็นโจทย์ที่ยากหน่อยสำหรับสถาปนิก” แต่ด้วยความคุ้นเคยกับ คุณรุ่งโรจน์ ลีสินสวัสดิ์ สถาปนิกที่ร่วมงานกันมาหลายครั้ง จึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะตีโจทย์และแปลงความต้องการเหล่านี้ให้กลายเป็นบ้านรูปทรงคล้ายตัวเอช (H) เพื่อแยกพื้นที่ใช้งานระหว่างกันและมีความเป็นส่วนตัวที่ค่อนข้างมิดชิด ทว่ายังเน้นมุมมองออกสู่ธรรมชาติของทะเล พร้อมทางเดินส่วนกลางซึ่งเปิดโปร่งเชื่อมโยงกันไว้ “ที่ผมกำหนดไว้ยังมีเรื่องของบ้าน 4 เสาที่เป็นเหมือนตัวแทนของสวรรค์ชั้น 4 […]

รักแรกพบ

  การผสมผสานสไตล์การตกแต่งให้สวยงามและลงตัวนั้นมีปัจจัยหลายอย่างเป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุ ของตกแต่ง หรือสีสัน เมื่อเราก้าวเข้ามาในห้องนี้ บรรยากาศในสไตล์ Eclectic เน้นความทันสมัย แต่ยังมีความนุ่มนวลและละเอียดอ่อนจากของสะสมมากมายที่จัดวางอย่างสง่างามและมีคุณค่า ร่วมด้วยการใช้โทนสีที่ดูสะดุดตาก็สร้างความน่าสนใจตั้งแต่แรกเห็น พื้นที่ 78 ตารางเมตรของห้องมีขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป คุณภาวิศ สิมะกุลธร เจ้าของบ้าน เล่าถึงเหตุผลในการเลือกคอนโดแห่งนี้ว่า “พี่หลงเสน่ห์ร่มเงาของจามจุรีที่สูงตระหง่านในโครงการ รู้สึกเหมือนได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติตลอดเวลา” ในส่วนของการตกแต่งภายในก็เผยให้เห็นถึงตัวตนของเจ้าของบ้าน คุณเอ – วัฒนา โกวัฒนาภรณ์ ผู้ออกแบบได้ใส่ใจถึงความต้องการของคุณภาวิศในทุกรายละเอียด “ห้องนี้พี่ซื้อปล่อยทิ้งไว้เป็นแรมปี จนได้มาพบและพูดคุยกับคุณเอก็ตัดสินใจปรับปรุงห้องใหม่ทั้งหมด ความต้องการแรกของพี่เลยคืออยากให้มีชั้นเก็บของเยอะๆ บรรยากาศส่วนใหญ่เน้นโทนสีน้ำเงินหรือครามซึ่งเป็นสีโปรด” คุณเอทำการบ้านอย่างหนักจนได้ผลลัพธ์ที่คุณภาวิศพอใจเป็นอย่างมาก จุดแรกที่ดูสะดุดตาคงหนีไม่พ้นแพนทรี่ที่คุณเอออกแบบในสไตล์ยุโรป ดูประณีตสวยงามและตอบสนองฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน จัดโชว์เครื่องถ้วย ชาม และแก้วอย่างน่าทะนุถนอม เน้นบรรยากาศแบบปาร์ตี้เล็กๆ ฝ้าเพดานเพิ่มลูกเล่น โดยออกแบบเป็นฝ้าหลุม โดดเด่นด้วยคิ้วบัวดูทันสมัยและหรูหรา โทนสีส่วนใหญ่เป็นสีน้ำเงินตามที่เจ้าของบ้านชื่นชอบ ถัดมาคือส่วนนั่งเล่นซึ่งคุณภาวิศมักใช้เป็นมุมอ่านหนังสือด้วย มองไปทางมุมไหนก็จะพบชั้นวางที่เต็มไปด้วยหนังสือทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ มีตั้งแต่หนังสือนวนิยาย วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ ชีวประวัติ ฯลฯ ที่โดดเด่นอีกอย่างก็คือวอลล์เปเปอร์กรุผนัง คุณภาวิศเล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “ระหว่างเดินทางไปหาเพื่อนที่ปารีส พี่ไปเจอร้านที่ผลิตวอลล์เปเปอร์ให้แบรนด์ Hermes เลยสั่งทำลวดลายที่อยากได้ ใช้ระยะเวลาสามเดือนในการผลิต […]

ก่อนการเดินทางครั้งต่อไป

“เพราะชีวิตคือการเดินทาง” ประโยคนี้คงบ่งบอกตัวตนของ คุณโรเบิร์ต – เจษฎา โอวาทเวโรจน์ ได้ดี เขาคือเจ้าของบ้านสไตล์โมเดิร์นหลังนี้ และกรรมการผู้จัดการบริษัท Global Tour Chiangmai ผู้อนุญาตให้เราได้มาเยี่ยมชมบ้านสวยๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินเชียงใหม่เท่าไรนัก “ลูกสาวสองคนไปเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ จะกลับมาก็ช่วงปิดเทอม คนอยู่บ้านหลังนี้ส่วนใหญ่ก็เลยเป็นผม อะไรๆ ในบ้านจึงดูเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างที่เห็น” คุณโรเบิร์ตเกริ่นถึงบ้านหลังนี้ พร้อมพาเราเข้าไปนั่งพูดคุยที่เคาน์เตอร์บาร์กลางโถงรับแขก ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ เมื่อถึงเวลากลับมาคุณโรเบิร์ตจึงต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ก่อนออกเดินทางในครั้งต่อไป ด้วยเหตุนี้เองการออกแบบและตกแต่งบ้านหลังนี้จึงเน้นความเรียบง่าย ตรงไปตรงมา แต่มีความสะดวกสบายอย่างลงตัว “ผมคิดคล้ายๆ เวลาผมไปพักโรงแรม ถ้าข้าวของกระจัดกระจายเกินไป ตอนจะออกเดินทางก็เก็บไม่ไหว กลับมาก็รกอีก คงพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ ก็ทำให้เป็นระเบียบเรียบร้อยตั้งแต่แรกไปเลยจะดีกว่า” คุณโรเบิร์ตเล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้ม ก่อนเอ่ยต่อไปว่า “พอกลับมาผมจะนั่งดูหนังที่โซฟารับแขก ทำอาหารกินเอง และออกกำลังกาย ผมว่าทั้งการพักผ่อนและเตรียมร่างกายให้พร้อมกับการเดินทางเสมอเป็นสิ่งจำเป็นนะครับ” จริงอย่างที่คุณโรเบิร์ตกล่าว หากใครเคยเดินทางติดกันบ่อยๆ คงไม่แคล้วต้องล้มหมอนนอนเสื่อกันบ้างละ การออกแบบบ้านหลังนี้จึงให้ความใส่ใจกับสุขภาพเป็นอย่างมาก โดยมีทั้งฟิตเนสส่วนตัว สระว่ายน้ำ และสนามพัตต์กอล์ฟอยู่ภายในบริเวณบ้าน ตัวบ้านนั้นออกแบบเป็นรูปตัวแอล (L) โดยเป็นผนังทึบทางด้านถนนทั้งสองด้าน กันความวุ่นวายจากถนนออกไปเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว การออกแบบโครงสร้างทำควบคู่ไปกับการออกแบบรูปแบบสถาปัตยกรรมเกิดเป็นลักษณะประโยชน์นิยม (Functionalism) ที่งานสถาปัตยกรรมจะก่อร่างขึ้นมาเองจากความสมเหตุสมผลทางการใช้งานและความเหมาะสมของวัสดุและงานก่อสร้าง การใช้เหล็ก […]

บ้านที่มีลมหายใจ…และกำไรของชีวิต

ณ หัวโค้งหนึ่งของทางหลวงชนบทที่ลัดเลาะไปตามท้องทุ่งในตำบลบ้านชัฏป่าหวาย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี มองเข้าไปก็จะเห็นบ้านหลังคาแป้นเกล็ดที่ดูแปลกตากว่าบ้านเรือนโดยรอบ ตัวอาคารคอนกรีตแซมด้วยองค์ประกอบไม้แลดูนิ่งสงบและอบอุ่น บ้านหลังนี้คือบ้านของ คุณเต้อ – นันทพงศ์ ยินดีคุณ และครอบครัว เจ้าของ : ครอบครัวยินดีคุณ ออกแบบ : คุณนันทพงศ์ ยินดีคุณ “มีความคิดว่าเมื่อคุณพ่อเกษียณก็อาจมาอยู่ทำสวนทำไร่ ใช้ชีวิตง่ายๆอยู่ที่นี่” คุณเต้อเล่าถึงสาเหตุที่มาปลูก บ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน อยู่ที่นี่ “เริ่มมาจากตอนหนีน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯปี 2554 เราทั้งครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ น้องชาย และผมมาเช่ารีสอร์ตซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่แปลงนี้ และก็เริ่มติดใจบรรยากาศของพื้นที่แถบนี้” แม้จังหวัดราชบุรีจะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ หากขับรถก็ใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษ แต่อำเภอสวนผึ้งซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังยังมีบรรยากาศแบบชนบทอย่างเต็มเปี่ยม   “ที่นี่ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพฯ ผมสามารถขับรถไปทำงานที่อาศรมศิลป์ได้บ้านหลังนี้จึงไม่ใช่บ้านตากอากาศ แต่เป็นบ้านอีกหลังที่หากคุณพ่อเกษียณแล้วคงมาอยู่กัน” มองจากภายนอกบ้านหลังนี้ดูใหญ่โตทีเดียว แต่ความจริงแล้วการออกแบบเริ่มมาจากการสร้างพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคน แล้วจึงนำมาผนวกเข้าด้วยกัน “บ้านที่อยู่ปัจจุบันเป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่ร่วมกัน บ้านใหม่ก็เลยอยากให้ทุกคนได้มีพื้นที่ของตัวเอง แล้วก็เชื่อมพื้นที่เหล่านั้นด้วยโถงทางเดิน เปิดพื้นที่ตรงกลางเป็นสวนและกั้นความเป็นส่วนตัวของทุกห้องออกจากกัน แต่ก็ยังหลวมพอที่ลมจะไหลเวียนผ่านทุกส่วนของบ้านได้” บ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน หลังนี้จึงมีรายละเอียดของแต่ละพื้นที่ที่ทับซ้อนเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยมีลานหินกรวดซึ่งปลูกต้นไม้ใหญ่สองสามต้นอยู่ตรงกลาง หากมองจากด้านบนก็จะเห็นว่ามีส่วนกั้นให้เกิดความเป็นส่วนตัวและเพิ่มความสดชื่นให้ทุกพื้นที่ในบ้าน แต่มองจากด้านล่างกลับดูนิ่งสงบ เข้ากับห้องทำงานของคุณเต้อที่ต้องการสมาธิในการสร้างสรรค์งานสถาปัตยกรรม ทางเดินทั้งหมดภายในบ้านและระเบียงของแต่ละห้องตั้งอยู่บนคานยื่น (Cantilever) ด้วยเหตุผลเรื่องความคุ้มค่าและรูปแบบทางสถาปัตยกรรม […]