LEDU ร้านอาหารไทยแบบ Fine-Dining เสิร์ฟความสร้างสรรค์ผ่านรสชาติแบบไทยๆ

LE DU เป็นร้านอาหารไทยที่มีชื่อชวนให้คิดว่านี่คือร้านอาหารไทยจริงๆ หรือ ขอตอบเลยครับว่า “ใช่” ที่นี่เป็นร้านอาหารไทยแบบ Fine-Dining เสิร์ฟอาหารไทยรสเลิศที่ครีเอตเมนูอย่างสร้างสรรค์ ผ่านการเลือกใช้วัตถุดิบไทยชั้นดี ให้เราได้ลิ้มรสชาติแบบไทยๆ และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดพิเศษที่เป็นส่วนตัว ชื่อเลอ ดูเป็นความตั้งใจให้เพี้ยนมาจากคำว่า “ฤดู” ซึ่งบอกถึงคอนเซ็ปต์หลักของทางร้านที่ เชฟต้น – คุณธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ได้วางเอาไว้

“เราเสิร์ฟอาหารไทย รสชาติไทย เพียงแต่นำเสนอในรูปแบบที่ต่างออกไป วัตถุดิบหลักทั้งหมดจึงต้องเป็นของไทย ซึ่งดีเกินพอ จนไม่เห็นต้องพึ่งของอิมพอร์ตแต่อย่างใด”

ที่นี่เลือกใช้วัตถุดิบของไทยในการรังสรรค์แต่ละเมนู โดยจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ซึ่งเมนูอาหารไทยต่างๆ ก็จะผันเปลี่ยนอย่างสร้างสรรค์ไปตาม “ฤดู” นั่นเอง

“งานศิลปะตกแต่งผนังขนาดใหญ่ซึ่งออกแบบให้ทางร้านนี้โดยเฉพาะ ผลงานของ คุณกรกต อารมย์ดี ศิลปินดังที่ถนัดสร้างสรรค์งานศิลปะผ่านวัสดุพื้นบ้าน”

โมเดิร์นไทย สไตล์ที่ตอบโจทย์ความเรียบง่าย กับรสชาติแบบไทยๆ
ร้านเลอ ดูปรับปรุงจากบ้านเก่าอายุกว่า 40 ปี โดยเชฟต้นเลือกตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเรียบง่าย  มีการลดทอนรูปแบบเดิมๆ ของร้านอาหารแบบทั่วไปออกไปในหลายส่วน ไม่เว้นแม้แต่ผ้าปูโต๊ะ ด้วยเหตุผลว่า “ผมไม่ชอบอะไรที่เป็นรูปแบบมากนัก บางส่วนเราจึงต้องตัดออกบ้าง”

แม้สีสันภายในร้านจะดูเรียบง่าย แต่ก็ยังสอดแทรกรายละเอียดในการตกแต่งภายในไว้หลายจุดทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นผนังโค้งเว้าที่โชว์เส้นสายแบบฟรีฟอร์ม เพิ่มมิติที่น่าสนใจ เท็กซ์เจอร์ของวัสดุที่โชว์ความดิบเรียบ แต่ก็ซ่อนดีเทล รวมถึงการเลือกใช้ของตกแต่งที่ทำจากวัสดุพื้นบ้านมาตกแต่งจัดวางอย่างตั้งใจ เพิ่มกลิ่นอายความเป็นไทยในรูปแบบที่เรียบง่าย

“บรรยากาศภายในครัว เชฟต้นกำลังจัดเตรียมวัตถุดิบอย่างขะมักเขม้น สำหรับปรุงเสิร์ฟให้ลูกค้าในวันนี้”

ภายในร้านแบ่งสัดส่วนไว้อย่างลงตัว โดยพื้นที่หลักสำหรับรองรับลูกค้าจัดวางโต๊ะอาหารไว้อย่างเหมาะสม ในระยะที่สบาย เพราะต้องการให้ลูกค้าได้รับความเป็นส่วนตัว บริเวณผนังโค้งเรียบสีขาวตกแต่งด้วยชิ้นงานศิลปะขนาดใหญ่เต็มผนัง ทำจากวัสดุธรรมชาติ ผลงานของ  คุณกรกต อารมย์ดี ศิลปินดังที่ถนัดการสร้างสรรค์งานศิลปะผ่านวัสดุพื้นบ้าน ซึ่งออกแบบงานชิ้นนี้ให้ทางร้านโดยเฉพาะ อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ ครัวเปิดที่กรุบานกระจกขนาดใหญ่ให้เราสามารถมองเห็นบรรยากาศในการปรุงเมนูต่างๆ ได้ เพราะการสื่อสารถึงกันระหว่างผู้ปรุงกับผู้กิน ช่วยสร้างอรรถรสให้มื้ออาหารได้ดีไม่น้อยจริงๆ เชื่อผมเถอะ

“Khao Chae เมนูข้าวแช่ที่นำเสนอในรูปแบบใหม่ ซึ่งดูต่างจากข้าวแช่ที่เราคุ้นเคย”
OYSTER Thai rice wine
RIVER PRAWN pork belly jam, shrimp paste and organic rice

เราเสิร์ฟรสชาติไทยในแบบที่เราตีความ
รสชาติอาหารไทยขึ้นชื่อเรื่องความจัดจ้านครบรส เราจึงอดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้ามีลูกค้าต่างประเทศมาใช้บริการ ที่นี่จะมีการปรับรสชาติอย่างไร เชฟต้นให้คำตอบว่า

“ที่นี่จะมีรสเดียว เพราะทุกเมนูผ่านการคิดและตีความมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นข้าวคลุกกะปิ หรือข้าวแช่ ล้วนถูกตีความและนำเสนอในรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง หน้าตา การนำเสนอ ไปจนถึงเทคนิคการปรุง ซึ่งแตกต่างจากที่ทุกคนคุ้นเคย แต่มั่นใจได้ว่าเมื่อได้กินแล้ว ก็จะได้รสชาติแบบไทยแน่นอน”

การเลือกวัสดุสำหรับครัวไทยเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ควรมองข้าม
ในตอนท้ายเชฟต้นยังฝากข้อคิดถึงคนรักครัวด้วยว่า การเลือก “วัสดุกับครัว” ถือเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้การทำอาหาร ซึ่งที่ร้านก็เพิ่งปรับเปลี่ยนทั้งผนังครัวและท็อปเคาน์เตอร์ที่เดิมเลือกกรุด้วยวัสดุหินธรรมชาติ เพราะความสวยงาม แต่เมื่อต้องใช้งานครัวหนักๆทุกวัน ก็พบปัญหาจากความร้อน กรดด่าง รวมถึงการทำความสะอาด ซึ่งยากจะเลี่ยง เป็นเหตุให้ต้องตัดสินใจเปลี่ยนวัสดุกรุให้ตอบโจทย์การใช้งานที่ดีขึ้น เชฟต้นเริ่มหาข้อมูลจนได้รู้จักหิน Geoluxe ซึ่งดูจะตอบโจทย์การใช้งานครัวได้ดีขึ้น วัสดุชนิดนี้เป็นนวัตกรรมที่เรียกว่า “หินไพโรลิธิค” (Pyrolithic Stone™) มีคุณสมบัติแข็งแกร่ง ทนทานต่อการใช้งานทุกรูปแบบ ทนต่อความร้อน รอยขีดข่วน หรือแม้แต่สารเคมี ที่สำคัญมีความสวยงามเหมือนหินอ่อนธรรมชาติจริงๆ และยังมีให้เลือกหลายเฉด

“วัสดุหิน Geoluxe ที่เชฟต้นเลือกใช้กรุผนังและท็อปเคน์เตอร์ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานครัวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังให้ความสวยงามเหมือนหินธรรมชาติ”

ดังนั้น ใครที่กำลังตกแต่งหรือต่อเติมบ้านหรือร้านค้า ก็อยากให้คำนึงถึงการเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งานด้วยเช่นกันครับ

LE DU ซอยสีลม 7 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ 09-2919-9969
www.ledubkk.com

เรื่อง : “บ.”
ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม