กำราบเพลี้ยแป้งในสวนให้สิ้นฤทธิ์ ด้วยสูตรปลอดภัยไม่ต้องใช้สารเคมี

เจ้าของสวนร้อยทั้งร้อยต่างเฝ้าคอยดูพรรณไม้ที่สรรหามาปลูกให้ออกดอกออกผลสวยงาม ชวนให้ชื่นใจ แต่ไม่วายมีโรคและแมลง อย่าง เพลี้ยแป้ง เข้ามาเบียดเบียนให้ต้องปวดหัวปวดใจ

เพลี้ยแป้ง หนึ่งในขาประจำที่ยกพลมาเป็นโขยงและยังชวนมิตรคู่ใจมาด้วย เจ้าแมลงตัวขาว ๆ ฟู ๆ แลดูอ่อนโยนแต่อันตรายน่าดู

เพลี้ยแป้ง

เพลี้ยแป้ง สังเกตได้ง่าย ด้วยเครื่องแต่งตัวที่ขาวราวหิมะ พวกมันดูจะมีนิสัยรักพวกพ้อง เพราะ พากันมาเป็นกลุ่มราวกับทัวร์ลง แต่ก็ออกจะขี้เกียจสักหน่อย ชอบเกาะอยู่นิ่ง ๆ ตามส่วนต่าง ๆ ของต้นไม้ ตั้งแต่ใบ กิ่งก้าน ลำต้น ไปจนถึงดอก เจ้าพวกนี้เห็นต้นไม้เป็นขวดน้ำหวาน จึงพากันมาดูดกินน้ำเลี้ยงโดยเฉพาะส่วนเจริญใหม่ เช่น ยอดอ่อน ใบอ่อน หรืออยู่ใต้ใบพืช จนต้นไม้ขาดอาหาร ทรุดโทรมลง และทำให้การเจริญเติบโตของต้นต้องหยุดชะงักลงไป

เจ้าแมลงตัวน้อยสีขาว ๆ นี้มักระบาดหนักในช่วงที่อากาศร้อนและชื้น เราอาจเห็นเป็นราดำตามมา เพราะ น้ำหวานที่เพลี้ยแป้งผลิตออกมามากจะกลายเป็นรา ซึ่งจะลุกลามจนทำให้ต้นไม้ตายได้ เจ้าของสวนอย่าได้นิ่งนอนใจปล่อยไว้เชียวครับ

เพลี้ยแป้ง กำจัดเพลี้ยแป้ง

วิธีแก้ไขเบื้องต้นแบบง่าย ๆ ก็คือ ถ้าพบเพลี้ยแป้งเป็นจำนวนน้อยเกาะอยู่ตามใบ หรือส่วนที่ตัดทิ้งได้ให้ตัดทิ้งไปก่อน และต้องท่องให้ขึ้นใจว่า เพลี้ยแป้งมี “มดจอมขยัน” เป็นมิตรรักผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ  ลองขยับกระถางหรือสำรวจดูรอบ ๆ สวนจะต้องพบรัง หรือทางเดินของมดที่แวะเวียนมากินน้ำหวานต่อจากเพลี้ยแป้ง บางทีเจ้ามดยังใจดีช่วยพาเพลี้ยแป้งเพื่อนรักไปเที่ยวทั่วสวนด้วย

บางครั้งเราก็พบว่าในกระถางปลูกกลายเป็นที่ซ่อนรังมดอย่างดิบดี  ดังนั้น การตัดตอนมดก็เป็นมาตรการที่ควรทำควบคู่กันไป เช่น ใช้เหยื่อกำจัดมดแบบที่ทำให้ตายยกรัง หรือถ้าไม่อยากใจร้ายจนเกินไป ก็หมั่นดูน้ำในจานรองไม้กระถางให้ดีอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตามหากวันดีคืนดีครอบครัวเพลี้ยแป้งพากันมาเยือนอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ทั้งใบทั้งต้นกลายเป็นสีขาวพราวไปหมด  คงต้องงัดเอาสารเคมีมาปราบบ้างละ เพื่อไม่ให้ต้นไม้เหี่ยวเฉาไปกว่านี้  เราอาจเริ่มจากมาตรการเบา ๆ ด้วยการใช้สารเคมีอ่อน ๆ ที่หาได้ใกล้มือดังนี้

สารเคมีกำจัดเพลี้ยแป้ง

1 น้ำยาล้างจาน

น้ำยาล้างจาน ชนิดไม่มีสารฟอกขาว ซึ่งมีฤทธิ์ลดแรงตึงผิว ทำให้ขี้ผึงที่เพลี้ยแป้งสร้างคลุมตัวเสียไป และหายใจไม่ได้ โดยใช้อัตราส่วนน้ำยาล้างจาน 3 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 20 ลิตร หากได้ผลก็จะเห็นเพลี้ยแป้งฝ่อแห้งไป

2 พริกสด

พริก กำจัดเพลี้ย
พริกสดมีสารรบกวนระบบการดูดซึมอาหารของเพลี้ยแป้ง

หรืออาจเพิ่มความรุนแรงขึ้นอีก ด้วยการผสมกับพริกสด ซึ่งมีสารรบกวนระบบการดูดซึมอาหารของเพลี้ยแป้ง ในอัตราส่วน พริกสดตำละเอียด 1- 2 ช้อนชา น้ำยาล้างจานชนิดไม่มีสารฟอกขาว 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมและหอมแดงสดอย่างละ 1 หัวใหญ่ นำไปปั่นโดยผสมน้ำบ้างเพื่อให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำอีก 2 ลิตร หมักทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำมากรอง ก่อนนำไปใช้งาน ในกรณีที่เป็นต้นไม้ที่มีใบอ่อน อาจลองแค่บางจุดก่อน เพราะใบอ่อนอาจไหม้ได้

3 เหล้าขาว

หากสูตรเบื้องต้นยังไม่สาแก่ใจ แต่ยังกลัวสารเคมีรุนแรงอยู่  ลองใช้สูตรเหล้าขาว 2 ขวด น้ำส้มสายชู 5 %  1 ลิตร สาร EM 1 ลิตร กากน้ำตาล 1 ลิตร และน้ำสะอาด 10 ลิตร นำทั้งหมดมาผสมกันและหมักไว้นาน 10 – 15 วัน หมั่นคนไม่ให้ส่วนผสมนอนก้น  และอย่าปิดฝาแน่นสนิทเพื่อให้ก๊าซที่เกิดขึ้นระบายออกได้ พอครบกำหนดแล้วให้ใช้ปริมาณ 1-5 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำสะอาด 5-10 ลิตร นำไปฉีดพ่นพืชผักทุก 3 วัน สลับกับพ่นปุ๋ยน้ำ หากเป็นพืชสวน พ่นทุก 3-7 วัน สลับกับการพ่นปุ๋ยน้ำ

แต่หากวิธีธรรมชาติใช้ไม่ได้ผล หรือเพลี้ยแป้งมีจำนวนมากเกินกำจัด อาจลองฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดแมลง เช่น ฟิโปรนิล (Fipronil) อิมิคาคลอพริด (Imidacloprid) ไดโนทีฟูแรน (Dinotefuran) ไวท์ออยล์ (Whiteoil) ปิโตรเลียมออยล์ (Petroleum Oil) เป็นต้น

แต่ที่สำคัญการฉีดพ่นต้องทั่วถึง มิเช่นนั้น หากมีเพลี้ยแป้งอยู่ใต้ใบหรือเกาะซ้อนกันแน่น ก็อาจทำให้ตัวล่างรอดและขยายพันธุ์ต่อไปได้ คงต้องอาศัยความพยายามในการกำจัดต้นเหตุ ตัดเนื้อร้าย และใช้สารเคมีควบคู่กันไป จึงจะกำราบเจ้าเพลี้ยตัวน้อยให้สิ้นฤทธิ์ลงได้


เรื่อง ปัญชัช

คลังภาพบ้านและสวน


วิธีกำจัดแมลงตัวร้าย 

วิธีกำจัดราสนิมในลั่นทม

วิธีกำจัดเพลี้ยหอยในกระบองเพชร

ติดตามข้อมูลดีๆเกี่ยวกับ บ้านและสวนแฟร์ ได้ทาง แฟนเพจบ้านและสวน