สวนขนาดใหญ่ได้รับการกำหนดให้ตั้งอยู่ด้านทิศใต้ซึ่งเป็นทิศที่ป้อนลมเข้าสู่ตัวบ้าน ร่มรื่นด้วยความเขียวชอุ่มของทั้งไม้พุ่มและไม้ขนาดใหญ่ พื้นที่สวนตั้งอยู่บนดินถมขึ้นสูงจากระดับที่ดินเดิมราว 1.20 เมตรเพื่อไล่ระดับความสูงให้ต่อเนื่องไปถึงระเบียงบ้านชั้น 1 บนความสูง3 เมตร ซึ่งตั้งชิดต่อเนื่องไปกับโถงรับแขก พื้นที่รับประทานอาหาร และครัว
สำหรับโถงชั้น 1 ได้รับการออกแบบให้เป็นห้องเพดานสูง (Double Volume) เพื่อเปิดรับแสงและลมให้พัดผ่านเข้ามาได้สะดวก รวมถึงเปิดรับวิวภายนอกไปในตัว มีบันไดเหล็กเชื่อมโถงรับแขกขึ้นไปสู่ชั้นลอยซึ่งใช้เป็นห้องทำงานและห้องนอนแขก ก่อนจะนำไปสู่ชั้น 2ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าของบ้านทุก ๆ ชั้นเชื่อมด้วยบันไดชุดเดียวกันเป็นทางสัญจรหลัก และแน่นอนว่ารวมถึงชั้นใต้ถุนด้วย โดยเจ้าของบ้านสามารถใช้บันไดเดียวกันนี้เข้าสู่ตัวบ้านจากที่จอดรถได้อย่างสะดวกสบาย
อีกสิ่งที่เป็นใจความสำคัญของบ้านหลังนี้คือ แนวคิดการใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้ไผ่มาเป็นองค์ประกอบจนกลายเป็นเอกลักษณ์ให้บ้านหลังนี้ สถาปนิกเสริมถึงแนวคิดการใช้มู่ลี่ไม้ไผ่มาใช้คลุมเป็นฟาซาดของบ้านว่า มีประโยชน์ทั้งการช่วยกรองแสง กันฝน บังสายตา อากาศถ่ายเทผ่านได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ตรงกับความต้องการภายใต้คอนเซ็ปต์การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ อีกทั้งการเลือกใช้วัสดุในงานออกแบบให้ตรงตามคุณสมบัติที่แท้จริง ก็ยังเป็นอีกหลักการที่สถาปนิกยึดถือ ไม่ต่างจากสัจธรรมของธรรมชาติ
“เราใช้เหล็ก ไม่ใช่เพราะเราอยากใช้เหล็ก แต่ใช้เพราะความบาง มันคือคุณสมบัติที่เรานำมาใช้ แต่ละวัสดุต่างมีวิธีใช้ไม่เหมือนกัน พอเราเข้าถึงหลักการ เข้าถึงคุณภาพ งานออกแบบก็จะมีคุณค่าในตัวเอง”
และเพราะหลักการที่แน่วแน่นี้เอง “รูปแบบ” จึงไม่ใช่สิ่งแรกที่สถาปนิกคำนึงถึง
“ไม่จำเป็นต้องแตกต่างกันก็ได้” คุณบุญเลิศตอบข้อสงสัยเมื่อเราถามถึงความแตกต่างของบ้านหลังนี้กับงานออกแบบบ้านหลังอื่น ๆ ที่เขาเคยทำ
“ถ้าเราทำงานแล้วเริ่มจากรูปแบบหรือความงามก่อนมักจะไม่ค่อยจริงเท่าไร เพราะบางทีเรานำมาแต่รูปแบบไม่ได้มาจากเหตุจริง ๆ
เจ้าของ : คุณธัญธัช ลีสิรวงศ์
ออกแบบ: BOONDESIGN www.boondesign.co.th
อ่านต่อบ้านสไตล์โมเดิร์นอื่นๆได้ที่ : MODERN HOUSES
เรื่อง กรกฎา
ภาพ W Workspace (Wison Tungthunya)
