BALANCED LIVING เป็นอยู่อย่างสมดุล

บ้าน…คือ พื้นที่ส่วนตัวที่ให้ความสบายได้มากกว่าสถานที่ไหน ๆ จึงไม่แปลกที่จะต้องมีการวางแผนหรือผ่านการออกแบบเพื่อให้ตรงตามโจทย์ของผู้อยู่อาศัยให้มากที่สุด โดยบางทีอาจต้องมีศาสตร์ต่าง ๆ ตามหลักความเชื่อมาช่วย เพิ่มความสบายใจ

เช่นเดียวกับ แบบบ้านสองชั้นโมเดิร์น ของ ครอบครัวเตชะไพบูลย์ ที่นําหลักฮวงจุ้ยมาผสมผสานกับแนวคิดของผู้ออกแบบ และปรับใช้ให้เข้ากับความทันสมัยของบ้านสไตล์ โมเดิร์นมินิมัลที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแฝงอยู่ ส่งเสริมให้บ้านหลังนี้มีคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจนและโดดเด่นในเรื่อง ความสมดุลทั้งภายนอกและภายใน

“บ้านหลังนี้เราวางแผนกันไว้นานมากครับ คุยกันก่อนแต่งงานประมาณ 1 ปีถึงได้เริ่มสร้างจริงบนที่ดินเดิมซึ่งเคยเป็นสนามหญ้าไว้วิ่งออกกําลังกายในบ้านมาก่อน และพอดีทางภรรยาของผมเขามีเพื่อนที่รู้จักกับ คุณบิว – มนัสพงษ์ สงวนวุฒิโรจนา สถาปนิกจาก Hypothesis เมื่อเราได้ดูผลงานของเขาแล้วก็เกิดชอบ จึงตัดสินใจให้คุณบิวมาช่วย ดูแลออกแบบบ้านหลังนี้ให้ โดยมีโจทย์ว่าผมชอบญี่ปุ่นและอยากได้บ้านกว้าง ๆ สไตล์โมเดิร์น เข้ากันดีกับธรรมชาติ ซึ่งต้องมีหลักฮวงจุ้ยเข้ามาช่วยนิดหน่อย ตามหลักหน้าน้ำหลังเขา แล้วให้เขาประสานงานต่อกับซินแสเพื่อช่วยกําหนดตำแหน่งต่าง ๆ ของบ้าน รวมระยะเวลาทั้งหมดก็ประมาณ 4 ปี เพราะติดปัญหาเรื่องน้ำท่วมและการต่อเติม แม้จะใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่เมื่อแล้วเสร็จเราค่อนข้างพอใจมากครับ”

ภายใต้อาคารทรงสี่เหลี่ยมดีไซน์เรียบง่ายตามสไตล์บ้านโมเดิร์น บนเนื้อที่กว่า 900 ตารางเมตร ได้รับการสอดแทรก กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นลงไปตามความตั้งใจของเจ้าของบ้าน เห็นได้จากห้องแรกสุดบริเวณหน้าบ้าน คุณบิวออกแบบและ ตกแต่งให้เป็นห้องชงชาสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งมาจากความชอบ ส่วนตัวของภรรยาเจ้าของบ้านที่หลงใหลการดื่มชาเป็นพิเศษ มีประตูบานเลื่อนระแนงไม้ซ้อนกับประตูกระจกอีกชั้นให้เกดิ ความน่าสนใจ และใช้เสื่อทาตามิปูพื้นทั่วทั้งห้อง พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีทั้งของใหม่ไปจนถึงมรดกตกทอดจากรุ่นคุณปู่ ห้องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ใครไปใครมาจะต้องแวะเข้ามา นั่งเล่นหรือเยี่ยมชมก่อนเสมอ และเมื่อเดินเข้ามาภายใน จะพบกับสวนหินกลางบ้านที่ตกแต่งแบบเซนด้วยหินกรวด สีขาวตัดกับหินก้อนใหญ่สีดํา เสมือนเป็นจุดศูนย์กลาง ก่อนแยกย้ายไปยังห้องต่าง ๆ ซึ่งยังคงมีความเป็นญี่ปุ่นแฝง อยู่อย่างต่อเนื่อง

/ ถึงจะชอบความโมเดิร์นทันสมัย แต่ถ้าบางอย่างไม่เหมาะ
ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยน เพื่อความสบายกายสบายใจไปพร้อมกัน /

“สวนหินนี้ผมไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องถูกต้องตามหลักการ แต่ก็ศึกษามาบ้างว่าต้องมีลักษณะเป็นอย่างไร พวกหินต่าง ๆ นี้ผมเป็นคนเลือกเองครับ แล้วให้คุณบิวช่วยออกแบบจัดวางอีกที แต่หลักของสวนเซนจริง ๆ ก็คือการฝึกสมาธิ เพ่งจิตไปที่หินก้อนใหญ่ซึ่งเปรียบเหมือนเกาะกลางทะเล สวนหินไม่ใช่แค่ศิลปะการตกแต่งเพียงอย่างเดียว แต่ยังทําให้เราได้คิดและมีสติทุกครั้งที่ได้มอง” จากมุมนี้สามารถเชื่อมพื้นที่กับภายนอกได้ด้วยการเปิดประตูไม้ที่เลื่อนได้กว้างกว่า 8 เมตรจนสุดผนัง ช่วยให้ลมพัดผ่านเข้า-ออกได้เต็มที่จนแทบไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศเลย

อีกฝั่งหนึ่งของสวนหินได้รับการออกแบบให้เป็นพื้นที่ พักผ่อน รวมห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวไว้ด้วยกันเป็นโถงยาว บานกระจกทั้งสองด้านสามารถเลื่อนเปิดรับลมได้ไม่ต่างจากมุมอื่น ๆ ช่วยเติมเต็ม ประจุบวกและลบให้สมดุลซึ่งกันและกัน ส่วนวัสดุต่าง ๆ ที่นํามาใช้ตกแต่งมีทั้งการผสมผสานวัสดุสังเคราะห์ตาม ยุคสมัยกับวัสดุธรรมชาติที่ให้ความสวยงามแบบยั่งยืนอย่างงานไม้ต่าง ๆ ที่มีให้เห็นเกือบทุกมุมของบ้าน ตั้งแต่บานประตู บันไดวน ไปจนถึงพื้นชั้นสองซึ่งปูด้วยไม้ทั้งหมด

เจ้าของบ้านเล่าว่า “ตอนแรกพื้นข้างบนปูไม้ไปแล้วรอบหนึ่ง แต่ผมไม่ชอบสีจึงรื้อออกแล้วปูใหม่ ผมเป็นคนชอบไม้ที่ออกดิบ ๆ โชว์เท็กซ์เจอร์ตามธรรมชาติ ไม้ที่เลือกมาใช้เป็นไม้ฮิโนกิ ซึ่งเป็นไม้เนื้อหอมที่จะเห็นได้ตามวัด และบ่อออนเซ็นในญี่ปุ่น พอนํามาใช้ก็ช่วยให้บ้านมีความเป็นธรรมชาติและมีความเป็นญี่ปุ่นมากขึ้น”

นอกจากนี้ยังนําไม้มาใช้กรุตกแต่งผนังในห้องนอน ทุกห้องเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้มีอารมณ์อย่างเดียวกัน จนลืมภาพของงานโมเดิร์นที่แข็งทื่อไปเลย

ความลงตัวขององค์ประกอบหลากหลายในบ้านหลังนี้ ทําให้เราได้เห็นว่า ไม่ใช่แค่ความสวยงามจากการออกแบบ เท่านั้นที่ช่วยเติมเต็มบ้านให้น่าอยู่ แต่ความสวยงามจากความเข้าใจต่างหากคือส่วนสําคัญที่ช่วยให้งานออกแบบมีความสมดุลระหว่างผู้อยู่อาศัยกับธรรมชาติ

 

 

Balanced-living-1
“ถึงจะชอบความโมเดิร์นทันสมัย แต่ถ้าบางอย่างไม่เหมาะก็ต้องมีการปรับเปลี่ยน เพื่อความสบายกายสบายใจไปพร้อมกัน”

 

มุมนั่งเล่นเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์หนังและไม้เป็นหลักเพื่อป้องกันฝุ่น และยังคงปูพื้นด้วยกระเบื้องสีขาวสร้างความต่อเนื่องจากภายนอก จุดเด่นของมุมนี้คือ สามารถเปิดประตูกระจกบานเลื่อนทั้งสองด้านออกเพื่อให้ลมพัดผ่านเข้าออกได้สะดวก
มุมนั่งเล่นเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์หนังและไม้เป็นหลักเพื่อป้องกันฝุ่น และยังคงปูพื้นด้วยกระเบื้องสีขาวสร้างความต่อเนื่องจากภายนอก จุดเด่นของมุมนี้คือ สามารถเปิดประตูกระจกบานเลื่อนทั้งสองด้านออกเพื่อให้ลมพัดผ่านเข้าออกได้สะดวก

 

ห้องชงชาสะท้อนวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่นด้วยการปูพื้นด้วยเสื่อทาตามิ พร้อมชุดโต๊ะเก้าอี้สําหรับนั่งพื้น ออกแบบประตูบานเลื่อนสองช้ัน โดยให้ประตูชั้นในสุดเป็นระแนงไม้ซ้อนอยู่ด้านหลังประตูบานเลื่อนกระจก สามารถเปิดโล่งเพื่อรับลมและมองเห็นสวนหย่อมได้รอบด้านตามแบบฉบับของบ้านญี่ปุ่น
ห้องชงชาสะท้อนวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่นด้วยการปูพื้นด้วยเสื่อทาตามิ พร้อมชุดโต๊ะเก้าอี้สําหรับนั่งพื้น ออกแบบประตูบานเลื่อนสองช้ัน โดยให้ประตูชั้นในสุดเป็นระแนงไม้ซ้อนอยู่ด้านหลังประตูบานเลื่อนกระจก สามารถเปิดโล่งเพื่อรับลมและมองเห็นสวนหย่อมได้รอบด้านตามแบบฉบับของบ้านญี่ปุ่น

 

แบบบ้านสองชั้นโมเดิร์น
พื้นที่กลางบ้านออกแบบให้เป็นคอร์ตสวนหินเปิดโล่งทะลุถึงหลังคา โดยหลังคาเป็นไฟฟ้าสามารถเลื่อนบังแดดและกันฝนสาดได้ พื้นปูกระเบื้องหินสีขาวเข้ากับผนังเพื่อสร้างความโปร่งสบาย ทําความสะอาดง่าย หากต้องการเชื่อมพื้นที่กับภายนอก ก็สามารถเลื่อนเปิดประตูบานไม้ออกได้จนสุดผนัง

 

ห้องครัวดูเรียบง่ายด้วยบานตู้บิลท์อินไม้ที่เข้ากับสไตล์ของบ้าน ไอส์แลนด์หินสังเคราะห์สีขาวดูสะอาดตา สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
ห้องครัวดูเรียบง่ายด้วยบานตู้บิลท์อินไม้ที่เข้ากับสไตล์ของบ้าน ไอส์แลนด์หินสังเคราะห์สีขาวดูสะอาดตา สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

 

โถงบันไดภายในบ้านโดดเด่นด้วยราวบันไดที่นําต้นไม้ทั้งต้นมารูดกิ่งออกให้เหลือเพียงท่อนไม้เกลี้ยง ๆ โดยยังคงเท็กซ์เจอร์ตามธรรมชาติเอาไว้ เช่นเดียวกับพื้นไม้ฮิโนกิ ที่ให้ลวดลายพร้อมกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ บริเวณนี้เป็นอีกมุมท่ีใช้อ่านหนังสือ โดยทําตู้บิลท์อินกลืนไปกับผนังเพื่อความเรียบร้อยและป้องกันฝุ่นในตัว
โถงบันไดภายในบ้านโดดเด่นด้วยราวบันไดที่นําต้นไม้ ทั้งต้นมารูดกิ่งออกให้เหลือเพียงท่อนไม้เกลี้ยงๆ โดยยังคงเท็กซ์เจอร์ตามธรรมชาติเอาไว้ เช่นเดียวกับพื้นไม้ฮิโนกิ ที่ให้ลวดลายพร้อมกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ บริเวณนี้เป็นอีกมุมที่ใช้อ่านหนังสือ โดยทําตู้บิลท์อินกลืนไปกับผนังเพื่อความเรียบร้อยและป้องกันฝุ่นในตัว

 

ห้องแต่งตัวได้แสงสว่างจากธรรมชาติผ่านช่องสกายไลท์ เมื่อแสงตกกระทบลงบนพื้นไม้ฮิโนกิทําให้ดูมีมิติมากข้ึน ส่วนตู้เสื้อผ้าและช้ันวางของออกแบบให้สามารถรองรับการใช้งานได้เต็มที่ หน้าบานตู้ติดกระจกเงาเพื่อหลอกตาให้ห้องดูกว้างขึ้น
ห้องแต่งตัวได้แสงสว่างจากธรรมชาติผ่านช่องสกายไลท์ เมื่อแสงตกกระทบลงบนพื้นไม้ฮิโนกิทําให้ดูมีมิติมากขึ้น ส่วนตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของออกแบบให้สามารถรองรับการใช้งานได้เต็มที่ หน้าบานตู้ติดกระจกเงาเพื่อหลอกตาให้ห้องดูกว้างขึ้น

 

ห้องน้ําส่วนตัวภายในห้องนอนใหญ่ตกแต่งพื้นและผนังทั้งหมดด้วยหิน โทนสีน้ําตาลอ่อน ออกแบบกระจกและซิงค์ล้างหน้าให้มีขนาดยาวพิเศษจนสุดผนัง โดยใช้ท็อปหินและกรุซิงค์ด้านในด้วยสเตนเลสพร้อมตู้ไม้สําหรับเก็บของ ติดมู่ลี่เพื่อช่วยบังสายตาจากผนังกระจกรอบด้าน
ห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องนอนใหญ่ตกแต่งพื้นและผนังทั้งหมดด้วยหิน โทนสีน้ำตาลอ่อน ออกแบบกระจกและซิงค์ล้างหน้าให้มีขนาดยาวพิเศษจนสุดผนัง โดยใช้ท็อปหินและกรุซิงค์ด้านในด้วยสเตนเลสพร้อมตู้ไม้สําหรับเก็บของ ติดมู่ลี่เพื่อช่วยบังสายตาจากผนังกระจกรอบด้าน

 

ผนังห้องนอนกรุไม้สักรอบด้านเพื่อความผ่อนคลายสไตล์ญี่ปุ่น แฝงดีเทลสมัยใหม่ด้วยการนําอะลูมิเนียมมาใช้กับขอบประตู หน้าต่าง และช่องแอร์
ผนังห้องนอนกรุไม้สักรอบด้าน เพื่อความผ่อนคลายสไตล์ญี่ปุ่น แฝงดีเทลสมัยใหม่ด้วยการนําอะลูมิเนียมมาใช้กับขอบประตู หน้าต่าง และช่องแอร์

เรื่อง : Gobbi Chirawat
ภาพ : ดํารง
คอลัมน์ : room to room
room magazine : Augest 2015 No.150

HOF : HOME & OFFICE เพราะชีวิตไม่ได้มีแค่ด้านเดียว