Vivid Sydney 2017 : ทำความรู้จักสาวไทย หนึ่งในทีมออกแบบงานระดับโลก

ผมมักจะพุดกับคนรอบข้างเสมอๆว่า “เราต้องหาตัวเราเองให้เจอว่าชอบอะไร อยากทำอะไรและอยากเป็นอะไเมื่อเรารู้ตัวเร็วเราก็จะประสบความสำเร็จเร็ว ไม่ต้องเสียเวลามาค้นหาตัวตน”

วันนี้ผมจะมาแนะนำน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้ว่าตัวเองว่าอยากเป็นและอยากทำอะไรในอนาคต เธอจึงมุ่งมั่นที่จะเรียนในสิ่งที่อยากเรียนและอยากเป็น ปัจจุบันเธอทำสำเร็จและเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายๆคน

งานแสดงแสง สี เสียง ระดับโลกกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในปีนี้ งานจะเริ่มตั้งวันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม ไปจนถึงวันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2017 และในครั้งนี้ ได้มีหญิงไทยคนเก่งและมากความสามารถ ที่เป็นหนึ่งในทีมงานจัดงาน  Vivid Sydney ที่ถือเป็นเทศกาลระดับโลก โดยเกี่ยวข้องกับการวางแผนการแสดงแสงสีในจุดต่างๆ เป็นการโชว์ความสามารถอันน่าทึ่ง ที่เรียกได้ว่าคนไทยเก่งไม่แพ้ฝรั่ง  ถือเป็นเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจของคนไทย เธอคือ “นิกกี้ – ธัญพิชชา ลดาภรณ์วิทยา”

คุณนิกกี้เป็นคนกรุงเทพมหานคร อยู่ย่านบางแค ในวัยเด็กรำเรียนที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์มาตลอดจนกระทั่งจบชั้นมัธยม หลังจากจบม.6 จึงเลือกที่จะเดินทางมาเรียนต่อที่ออสเตรเลีย มีเป้าหมายที่จะเรียนด้าน graphic หรืองานเบื้องหลังโทรทัศน์ เลยลองหาที่เรียนเกี่ยวกับ Media และ Design เลยลองส่งผลงานไปที่ RMIT Univercity ที่เมลเบิร์น ในสาขา Diploma of Multimedia (อนุปริญญา) แล้วได้รับหนังสือตอบรับให้ไปเรียน

หลังจากเรียนจบ ก็ลอง Apply Temporary Graduate Visa เพื่อลองหางานดู ก็ทำแฟ้มผลงานไปด้วย Freelance ไปด้วย ทำงานร้านอาหารไปด้วย พอย้ายมา Sydney ก็ทำงานเป็น receptionist อยู่พักหนึ่งแล้วก็หางานไปด้วย แล้วก็ได้งานที่บริษัท Creative Agency  ชื่อ S1T2 ในหน้าที่ animator ส่วนตอนนี้เป็น Lead animator แล้ว

เมื่อถามว่าได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงแสงสี Vivid Sydney ที่เป็นงานระดับโลกได้อย่างและรู้สึกอย่างไร คุณนิกกี้เล่าว่า

“บริษัท S1T2 มีโอกาสได้มีส่วนร่วมในงาน Vivid Sydney ในปี 2014 ในงานที่ชื่อว่า Ray งานชิ้นนี้เป็นงานที่มีส่วนร่วมของหลายบริษัท เพราะเป็นงานชิ้นที่ค่อนข้างใหญ่ จัดตรง Circular Quay โดยคอนเซปต์คือการสร้างผลงานที่มีแสงสีด้วยพลังธรรมชาติ แต่จะได้เห็นแสงสีสวยนั้น ก็ต้องช่วยกันเข้าไปเล่นให้พลังงานออกมา ให้เป็นโชว์ให้ดู

บริษัท S1T2 มีหน้าที่ทำให้งานชิ้นนี้มีชีวิตขึ้นมา เราต้องมารับรองด้าน Interactive ในงานชิ้นนี้ ส่วนหน้าที่ของนิกกี้ ก็เริ่มจากการที่ต้องทำ Animation mock up หรือแบบแผนว่าแสงจะตอบโต้ยังไงตอนที่ไปเล่น เลือกสีและโทนสีว่าแสงจะออกมาเป็นอย่างไร เมื่อออกมาจากคนเล่นมากหรือเล่นน้อยเท่าไหน เหมือนทำ Creative และ Moodboarkd ไปด้วยเลย

ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่างานจะออกมาดังขนาดนี้ เพราะทำกันเหนื่อยและสนุกมาก ลืมไปเลยว่าทำสำหรับงาน Vivid เพราะเหมือนกับทำเพื่อตัวเองและเพื่อนๆ ที่บริษัท ตอนทำงานชิ้นนั้นก็ต้องไปโรงงานที่เริ่มก่อตั้งงานให้เป็นชิ้นเป็นอัน อยู่ดึกในโรงงานเพราะต้องลองแสงว่าจะออกมาดูดีตอนกลางคืนมั๊ย ทำถึงตี 5 ที่ Circular Quay เพื่อให้มั่นใจว่าแสงออกมาพอ โดยไม่โดนรบกวนจากแสงของงานอีกชิ้น แต่พองานได้โปรโมทแล้วมีคนรู้จัก ก็ชื่นใจมากๆ  ว่างานที่ตัวเองตั้งใจำได้รับผลตอบรับที่ดี ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะออกมาดัง อย่างนั้นจะได้ชวนคุณพ่อคุณแม่มาดูด้วย จะได้โม้ต่อให้ฟัง (หัวเราะ) ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ถึงแม้จะได้งานเป็น Animator แต่ก็มีโอกาสได้ทำงานหลายด้านกับบริษัทนี้ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ อย่างเช่น Creative  Video editing  หรือแม้กระทั่ง 3D modeling และอื่นๆ อีก”

ส่วนหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ทำในงาน Vivid  คุณนิกกี้เล่าว่า “ตอนงานชิ้นที่ชื่อว่า Ray ใน Vivid 2014ได้ทำด้าน Animatic mock up และ Creative ด้านแสงสีและหน้าที่เดียวกันในงาน Vivid 2015  ในงานที่ชื่อว่า Affinity และในปี 2016 ได้รับมอบหมายให้เป็นคนปั้น 3D model ให้กับ interactive donation box ให้กับ Vivid  ที่ Taronga Zoo

ส่วนปีนี้คือปี 2017 ได้จัดงาน Talk panel  ที่ชื่อว่า Imagining Interactive Brand ใน Vivid idea exchange เป็นงานสัมมนาที่จะพูดเกี่ยวกับงาน Interactive brand story ที่โฟกัสด้านเทคโนโลยีรุ่นใหม่อย่าง Vr (Virtual reality) Ar (Argumented rality) และ Mr (Mixed reality) มาใช้ในการสื่อสารสาระสนเทศ เช่น โฆษณา Social media หรือแม้กระทั่งการศึกษาโดยในเคสงานที่เคยทำมาเป็นตัวอย่างเพื่อให้ความรู้สำหรับคนที่สนใจในด้านงาน Media  ยุคใหม่”

เมื่อถามว่าภูมิใจหรือไม่ที่ได้มีส่วนทำงานระดับโลกอย่าง Vivid คุณนิกกี้กล่าวว่า  “ตอนเริ่มทำงานให้กับบริษัท S1T2 สาเหตุที่ชอบทำงานกับที่นี่เพราะบริษัทนี้เชื่อในคำว่า ” Story first, Teachnology second” ซึ่งความหมายก็คือ “เรื่องราวเหนือเทคโนโลยี” เทคโนโลยีจะก้าวไกลและมีค่ายิ่งขึ้นไปอีก ถ้างานมีเรื่องราวและความหมายในเนื้องาน คุณค่าของงานชิ้นนั้นก็จะทวีคูณขึ้นไป

ตอนทำงานกับ Vivid Sydney ตอนนั้นพูดตามตรงว่าเหนื่อยและสนุกกับงานบริษัท S1T2 มากจนลืมไปเลยว่าทำกับงาน Vivid Sydney พอผลงานออกมาก็ภูมิใจมาก ตอนนั้นก็คิดไว้ว่า ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ เราก็ภูมิใจที่ได้ทำกับบริษัทอยู่ดี เพราะเป็นงานที่ทำกับที่บริษัทเหมือนพี่เหมือนน้อง ใช้ทุกหงาดเหงื่อช่วยกันทำ พอผลตอบรับดีก็เหมือนโบนัสเพิ่มจากที่ภูมิใจอยู่แล้ว”

เมื่อถามถึงทัศนคติในการทำงานและทัศนคติการใช้ชีวิตในออสเตรเลีย  คุณนิกกี้ตอบว่า ” การใช้ชีวิตของนิกกี้ ต้องใช้คำว่า Experimental  เป็นคนชอบทดลองอะไรใหม่ๆ สกิลใหม่ พบปะผู้คนใหม่ ที่กินใหม่ ที่เที่ยวใหม่ ชอบลองหาอะไรทำรายสัปดาห์ ถ่ายรูป ไปแกลลอรี่ ห้องสมุด หาคาเฟ่ที่กิน ลองทำอาหารกับเพื่อนนานาชาติ ไปสัมมนาในสายงานด้านอื่นๆ เรียนรู้ Software ต่างๆ ด้วยตัวเอง เพราะบางครั้งสกิลพวกนี้ อาจมาแปรผันเป็นงานเป็นการได้

เช่นเมื่อสองปีที่แล้ว ก็ลองทำ Hologram  ชิ้นใหญ่เพื่อเปิดงานที่ Avalon airshow คุณพ่อคุณแม่สอนมาเสมอว่าเป็นลูกสาวคนเดียว ใครหน้าไหนทำอะไรได้ ลูกเราก็ทำได้ ไม่จำเป็นว่าอาชีพไหนสำหรับเพศอะไร อยากทำอะไรก็มุมานะ ตั้งใจเราก็ทำได้ ทัศนคติก่อนมาออสเตรเลียก็เลยเปิดกว้างมาก เพราะเราไม่เกี่ยงเพศ สัญชาติ หรือหน้าที่ เราเลยได้เรียนรู้ เข้าใจวัฒนธรรมของที่นี่ และของเพื่อนประเทศอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่

ส่วนชีวิตการทำงานก็สนุกไม่แพ้กัน นิกกี้เป็นคนบ้างาน เห็นงานในแง่เหนื่อยแต่สนุก ต้องอยู่ดึกบ้าง ทำงานหนักบ้าง แต่ผลที่ออกมาก็ทำให้ชื่นใจและภูมิใจ โชคดีที่บริษัททำงานกันแบบช่วยกันเหมือนพี่เหมือนน้อง ไม่มีใครเหยียดเพศหรือสัญชาติ เลยทำงานสบายใจ แล้วได้เรียนรู้หลายๆ สกิล เหมือนกับที่ตัวเองชอบเรียนรู้อะไรไรใหม่ๆ อยู่แล้ว

ตอนเริ่มทำงานกับบริษัท S1T2 ตอนนั้นเป็นผู้หญิงคนเดียวในบริษัทและมีแค่ 4-5 คน เลยได้มีหน้าที่มากกว่าทำอนิเมชั่น ทั้งตัดต่อทีวี โฆษณา ออกไอเดีย สำหรับ creative brief ทำ Visual effect แล้วสกิลใหม่ล่าสุด คิดการทำงานในด้าน Vrc และวีดิโอ 360 องศาแบบครบวงจรตั้งแต่เริ่มจนจบ จนตอนนี้บริษัทใหญ่ขึ้นมาก ก็มีโปรเจ็คลูกค้าใหญ่อย่าง World bank SAMSUNG Disney และอื่นๆ อีก”

นี่คือเรื่องราวชีวิตการทำงานอันน่าทึ่งและน่าชื่นชมในความสามารถของ “คุณนิกกี้” หญิงไทยที่เก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก  ที่เราขอปรบมือให้ด้วยความภาคภูมิใจยิ่ง

 


 

ขอบคุณบทความดีๆ จาก THAI TOWN NEWS <นสพ.ไทยในซิดนีย์>

เรื่อง ไตรรัตน์ ทรงเผ่า
ภาพ  ธัญพิชชา ลดาภรณ์วิทยา