ร่มเงา แสงแดด และเม็ดฝน

ฝนตกก็ต้องเปียก แดดออกก็ต้องร้อน ลมพัดก็ต้องปลิว เป็นสัจจธรรม แต่มนุษย์พยายามฝืนและหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้าด้วย เพราะคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือปัญหาที่เราต้องแก้ไข เราคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหา เพื่อต่อสู้กับมัน แต่… ยิ่งสู้กัน ยิ่งแยกจากกัน เราก็ยิ่งไม่เข้าใจมัน

“มัน” คือธรรมชาติที่ “บ้านในฝัน” หลังนี้อยากจะนำกลับเข้ามาอยู่ร่วมกับคนในบ้าน ไม่ได้แปลว่าบ้านหลังนี้ไม่มีหลังคา หรือให้คนในบ้านนอนกลางดินกินกลางทราย หากแต่เราสามารถปล่อยให้บางส่วนของพื้นที่อาศัยในบ้านเปียกบ้างเมื่อฝนตก เห็นร่มเงาของต้นไม้เข้ามาในบ้านบ้างเมื่อแดดส่อง… เพื่อคอยเตือนให้เรายังจำได้ว่าเราอยู่กับ “มัน”

per09final
“ลานเอ๊าต์ดอร์ที่อยู่ในบ้าน” ฝนตกก็เปียกบ้าง แดดส่องก็ได้แสงเงาของโครงหลังคาไม้ผสมกับร่มเงาจากต้นไม้จริงๆ ลมก็สามารถพัดผ่านจากหน้าบ้านทะลุออกหลังบ้านได้

ผลงานการออกแบบบ้านหลังนี้เป็นของสถาปนิกหนุ่มจากบริษัทแปลนอาคิเต็ค จำกัด คุณกฤตธิ หิรัญรัศ  ซึ่งได้รับรางวัลชมเชยจากการประกวดออกแบบบ้านในงานบ้านและสวนแฟร์ประจำปีนี้ ภายใต้หัวข้อ “Green Home Effect” คุณกฤตธิตีโจทย์ออกมาเป็นนามธรรมที่ลึกซึ้ง และแปลงมาเป็นรูปธรรม-สถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะที่ลานไม้ตรงกลางบ้านซึ่งมีหลังคาและผนังเป็นโครงไม้โปร่ง รับลมรับแดดและรับฝนอย่างเป็นธรรมชาติ มีการกรุกระจกฝ้าบนโครงไม้แบบกระจายเป็นหย่อมๆเพื่อสร้างแสงเงา ภาพที่ออกมาคือพื้นที่ส่วนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่นอกบ้าน โดยเฉพาะเวลาที่มีปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่ก็ยังดูอบอุ่นปลอดภัยเหมือนอยู่ในบ้านด้วย

per06final
ระเบียงด้านบนสามารถมองลงมาที่ลานในบ้านได้
per05final
ลานหลังบ้านที่เชื่อมต่อออกมาจากลานในบ้าน… ถ้าแสงส่องมาทิศนี้มากเราอาจปลูกไม้เลื้อยขึ้นไปบนผนังโครงไม้นี้ได้ เช่น “ใบระบาด”โตไวใบใหญ่ด้วย หรือถ้าอยากให้มีดอกสวยๆก็เช่น “สร้อยอินทนิล” หรือ “จันทร์กระจ่างฟ้า”

ไอเดียนี้อาจสร้างแรงบันดาลใจให้เจ้าของบ้านหลายท่านที่กำลังคิดจะทำลานบ้านหรือต่อเติมพื้นที่พักผ่อนออกไปนอกบ้าน อันนี้ก็ต้องนำไปประยุกต์กันเองครับ อยากจะรับหรืออยากจะหลบ “มัน” มากขนาดไหน แต่ละคนต้องถามตัวเองครับ … อ้อ! ถามคนที่ (จะ) อยู่ในบ้านหลังเดียวกันด้วยก็ดีครับ

1

3

2

 

เรื่อง : “จ.เขียน”

ออกแบบและทัศนียภาพ : กฤตธิ หิรัญรัศ