ตอบ 6 คำถามยอดฮิต เกี่ยวกับห้องครัว

เกี่ยวกับห้องครัว แม้ห้องครัวจะถูกจัดวางไว้หลังบ้านให้ดูมิดชิดเสมอ แต่ห้องนี้ก็ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของบ้าน หากใครกำลังคิดสร้างหรือต่อเติมห้องครัวเอง

มาดูข้อพิจารณาในการออกแบบครัวแบบง่ายๆที่หลายคนมักสงสัยกัน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้งานอย่างสะดวก เกี่ยวกับห้องครัว  

เกี่ยวกับห้องครัว เกี่ยวกับห้องครัว

  1. จัดครัวไว้ตรงไหนของบ้านดี

ห้องครัวควรอยู่ใกล้หรือติดห้องอาหาร และอยู่ด้านทิศตะวันตกหรือทิศใต้ ซึ่งมีแสงแดดช่วยไล่ความอับชื้น อีกทั้งควรอยู่ใต้ลมหรือด้านที่ลมจะไม่พัดกลิ่นอาหารเข้าบ้าน แต่ถ้าพื้นที่จำกัดอย่างทาวน์เฮ้าส์หรือตึกแถว ก็ทำประตูปิดให้เป็นสัดส่วน การใช้เครื่องดูดควันและหลังคาโปร่งแสงก็ช่วยได้

homeinterior-03-09
  1. ซิงค์ เตาไฟ ตู้เย็น ไว้ตรงไหน

การจัดวางชุดครัวที่ดี ควรจัดวางตามลำดับการใช้งาน ให้เป็นรูปสามเหลี่ยมหรือเส้นตรงเพื่อความสะดวก คือ
1  ส่วนเตรียมอาหาร คือ ตู้เย็นและเคาน์เตอร์ด้านข้างเพื่อวางของที่หยิบออกมาจากตู้เย็น
2  ส่วนล้าง คือ อ่างล้างจาน ล้างผักผลไม้
3  ส่วนปรุงอาหาร คือ เตาไฟ เตาอบ (อย่าลืมใส่หน้ากากกันแมลงที่ปลายท่อ)

homeinterior-05-01
  1. เคาน์เตอร์สูงเท่าไร จึงไม่เมื่อยหลัง

ความสูงของเคาน์เตอร์ที่เหมาะกับคนไทยคือ 85 – 87 เซนติเมตร หากต่ำหรือสูงกว่านี้อาจเกิดอาการปวดหลังจากการก้มๆ ได้ ถ้าเป็นคนตัวสูงก็ใช้ขนาดเดียวกับฝรั่งคือ 90 – 93 เซนติเมตร แต่ถ้าเป็นคนตัวเล็กทั้งบ้าน ก็ต้องหาระยะที่เหมาะสมเป็นกรณีไป

garden-idea-01-22
  1. ครัวไทย ครัวฝรั่งคืออะไร

รูปแบบครัวที่นิยมทำในบ้านเราคือ ครัวอาหารไทยและครัวอาหารยุโรปหรือมักเรียกกันว่าครัวฝรั่ง ซึ่งมีความแตกต่างกันคือ

ครัวไทย คือ ครัวที่ใช้ทำอาหารหนักอย่างการต้ม แกง ผัด ทอด อาหารไทยจะมีกลิ่นค่อนข้างแรง จึงควรกั้นสัดส่วนชัดเจน มีประตูปิดไม่ให้กลิ่นเข้าบ้าน อาจเป็นครัวแบบโล่งหรือใช้เครื่องดูดควัน ช่วยระบายกลิ่น

homeinterior-03-03

ครัวฝรั่งหรือแพนทรี่ เป็นส่วนเตรียมอาหารเพื่อเสิร์ฟ และใช้ทำอาหารเบาๆ อย่างอุ่นกับข้าว ปิ้งขนมปัง ชงกาแฟ ซึ่งไม่มีกลิ่นฉุน จึงนิยมจัดไว้ในห้องอาหาร พร้อมทั้งทำเป็นเคาน์เตอร์สำหรับนั่งกินอาหารแบบง่ายๆ ได้ด้วย

houseidea-01-04
  1. ใช้วัสดุอะไร ทำครัวดีล่ะ

ควรเลือกวัสดุที่ทนทานและทำความสะอาดง่าย โดยสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทตามการใช้งาน คือ

1  วัสดุตกแต่ง ได้แก่ กระจกแผ่นลามิเนตลายต่างๆ ไม้จริงและไม้อัดทาสี เหมาะสำหรับส่วนที่ต้องการความสวยงาม ใช้งานไม่หนักและไม่เปียกชื้น เช่น หน้าบานตู้ ด้านข้างเคาน์เตอร์ ชั้นวางของ และผนังทั่วไป

2  วัสดุสำหรับใช้งาน ได้แก่ สเตนเลส หินแกรนิต กระเบื้องเซรามิก หินสังเคราะห์ (เรียงลำดับตามความทนทานจากมากไปน้อย) เหมาะสำหรับส่วนที่ต้องรับแรงกระแทกจากการใช้งานเปียกชื้น โดนความร้อนและขัดถูบ่อย เช่น ท็อปเคาน์เตอร์ผนังที่ติดกับเตาไฟ ซิงค์ล้างจานและพื้นห้อง

houseidea-01-07
  1. งานระบบที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง

งานระบบเป็นเหมือนพลังงานหล่อเลี้ยงห้องครัวให้ใช้งานได้ ซึ่งมีข้อควรคำนึงในการเตรียมดังนี้

ไฟฟ้า

–  ควรแยกวงจรไฟฟ้าของห้องครัวออกจากของบ้าน เผื่อเวลาไม่อยู่บ้านแล้วจะปิดคัตเอ๊าต์ทั้งบ้านก็ทำได้ โดยไ ม่ต้องกลัวว่าของในตู้เย็นจะเน่าเสีย

– ควรซื้อหรือศึกษาขนาดและการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวตั้งแต่ระหว่างก่อสร้าง โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่จะฝังเข้าในตู้บิลท์อินอย่างตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้า เพื่อจะได้ทราบขนาดและตำแหน่งติดตั้งปลั๊กและสวิตช์ไฟ

–  ติดปลั๊กไฟให้สูงจากพื้นอย่างน้อย 25 เซนติเมตร และจากท็อปเคาน์เตอร์ 10 เซนติเมตร เพื่อความปลอดภัยในการเช็ดทำความสะอาดและป้องกันไฟฟ้าช็อต อีกทั้งติดตั้งสายดินและเลือกใช้ปลั๊กที่มี 3 รู เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายรุ่นจะผลิตเป็นปลั๊กสามขาสำหรับสายดินไว้ด้วย

homeinterior-05-07

ประปา

– หากต้องใช้ปั๊มน้ำ ห้ามต่อปั๊มน้ำกับท่อน้ำโดยตรง เพราะผิดกฎหมายและอาจทำให้ท่อแตกได้ ต้องต่อท่อจากมิเตอร์เข้าถังเก็บน้ำแล้วจึงต่อกับปั๊ม โดยเลือกขนาดถังจากจำนวนคนในบ้าน คือ ขนาดถัง = จำนวนคน x 200 ลิตร

– ติดวาล์วน้ำให้กับท่อที่ต่อเข้าอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้า ซึ่งอาจนำออกมาซ่อมแซมก็ทำให้ส่วนอื่นๆ ของบ้านยังคงใช้น้ำได้ตามปกติ

– อย่าลืมเผื่อพื้นที่วางถังดักไขมันโดยควรวางไว้ใต้อ่างล้างจานหรือนอกบ้านก็ได้ แต่ต้องสะดวกในการดูแลทิ้งเศษอาหารและไขมัน

รายละเอียดข้างต้นคงพอเป็นแนวทางในการทำห้องครัวได้บ้าง แต่ถ้าคุณผู้อ่านท่านใดยังอยากไอเดียดีๆที่จะสามารถนำไปใช้ตกแต่งห้องครัวของคุณได้จริง

อ่านเพิมเติม : 10 เรื่องต้องรู้การออกแบบและปรับปรุงห้องครัว

KITCHEN IDEAS รู้จักสไตล์ที่ชอบก่อนเนรมิตครัวใหม่กับไอเดียแต่งห้องครัว 3 แบบ

6 วัสดุทำท็อปเคาน์เตอร์ครัว เลือกให้เหมาะช่วยยืดอายุการใช้งานครัวที่บ้านได้

ติดตามบ้านและสวนที่ www.facebook.com/baanlaesuanmag