เมื่อมีเหตุต้องย้ายที่อยู่อาศัย แต่ความสุขและความผูกพันทางใจต่อสถานที่และสภาพแวดล้อมแห่งเดิมยังคงอยู่ในความทรงจำ จึงทำให้ คุณตู่ – พวงทอง จงรุ่งเรือง อยากเก็บภาพความประทับใจเหล่านั้นมาจัดเป็นสวนสวยให้เหมือนเช่นธรรมชาติของสถานที่ที่จากมาเธอเริ่มเล่าย้อนเรื่องราวในวันวาน รวมถึงที่มาของ สวนทรอปิคัล อันร่มรื่นแห่งนี้ให้ทีมงานได้นั่งล้อมวงฟังอยู่บริเวณชานพักใต้ร่มเงาไม้อย่างเป็นกันเอง
“เมื่อก่อนดิฉันมีบ้านอยู่แถวรังสิต เป็นบ้านที่อาศัยอยู่ตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่า ในตอนนั้นบริเวณรอบๆยังเต็มไปด้วยต้นไม้ มองไปทางไหนก็เห็นสีเขียวของทุ่งนา พอเราแต่งงานจึงย้ายเข้ามาอยู่ในตัวเมืองสมุทรปราการกับสามี ซึ่งพื้นที่แถวนี้ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้าน แต่เรายังคิดถึงและอยากได้บรรยากาศของธรรมชาติที่เคยสัมผัสกลับคืนมาอยู่ใกล้ตัว
“เดิมบ้านหลังนี้ปลูกเพียงมะม่วงและชมพู่ที่หน้าบ้าน ตรงกลางมีมะขามและชมพูพันธุ์ทิพย์ ด้านในปลูกสาเกไว้อีกต้นหนึ่ง บรรยากาศยังดูโล่งๆ ไม่ร่มรื่นเลยค่ะ พอว่างจากการทำงานเมื่อไร ดิฉันจะซื้อต้นไม้เล็กๆมาเติม ลงมือปลูกเองทีละต้นสองต้น เหมือนเป็นงานอดิเรกที่ทำได้เพลินๆทั้งวัน ทำไปทำมาเวลาผ่านไปสามสิบกว่าปี จนตอนนี้พื้นที่สวนเต็มไปด้วยต้นไม้ แทบไม่เหลือที่ว่างให้ปลูกเพิ่มแล้วค่ะ
“สวนของดิฉันก็อาศัยจัดเองแบบง่ายๆ แต่เน้นความร่มรื่นให้ดูเขียวๆสบายตา เราจึงเลือกปลูกไม้ใบเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเฟินสายพันธุ์ต่างๆ เช่น ข้าหลวง สไบนาง ใบมะขาม ขนนก นาคราช ฯลฯ เพราะเป็นพรรณไม้ที่รู้สึกว่าดูแลง่าย อยู่ได้กับสวนที่ค่อนข้างร่มโดนแดดน้อย และมีราคาไม่แพงมาก เราเลือกซื้อตอนเป็นต้นเล็กๆไม่กี่ต้น แล้วนำมาขยายพันธุ์เอง เพียงใช้กาบมะพร้าวสับแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วใส่ในกระถางดินเผาหรือตะแกรงปลูกไม้แขวน จากนั้นตัดก้านเฟินมาปักชำ เติมปุ๋ยละลายช้าเพิ่มธาตุอาหาร หมั่นรดน้ำให้ชุ่มชื้น ซึ่งวิธีนี้ยังใช้ขยายพันธุ์พรรณไม้อื่นๆได้อีกด้วยอย่างเดป ไก่ลาย ไข่มุก ริปซาลิส ฯลฯ ก็เติบโตงอกงามดีค่ะ”
เมื่อสอบถามถึงรูปแบบของสวนแห่งนี้ซึ่งจัดเป็นสวนกระถาง คุณตู่จึงอธิบายเพิ่มเติมว่า
“เพราะดินของที่นี่ค่อนข้างแข็ง ไม่เหมาะสำหรับปลูกพรรณไม้ และมักมีน้ำขังตอนฝนตกหนัก จึงเลือกแก้ปัญหาโดยการปูพื้นบล็อกซีเมนต์และปูอิฐมอญ ช่วยให้พื้นสวนไม่แฉะ ทั้งยังสะดวกเวลาเดิน เลยเลือกปลูกต้นไม้ใส่กระถางดินเผาซึ่งเก็บความชื้นได้ดี และวางบนท่อนไม้หรือซ้อนกระถางสูง เพื่อป้องกันรากเน่าตอนมีน้ำขัง และเคลื่อนย้ายสะดวกด้วย พอต้นไม้มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็เปลี่ยนขนาดกระถางกันใหม่ บางส่วนใช้กระถางแขวน เราปีนขึ้นไปแขวนกับกิ่งไม้เองเลยค่ะ ลูกๆก็เป็นห่วงแม่ แต่เราทำแบบนี้มาตั้งแต่สาวๆ เรียกว่าชำนาญ (ยิ้ม) ตอนนี้ก็ยังมีแอบปีนแขวนเองอยู่บ้าง เพราะชอบให้มีไม้แขวน กิ่งใบห้อยเป็นสายดูพลิ้วสวย สบายตา”
“เห็นมีต้นไม้เยอะๆแบบนี้ การดูแลไม่ยุ่งยากเลยค่ะ เพราะบ้านกับสวนมีขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มากหรือเล็กไป ประมาณ 150 ตารางวา เราเลยได้ใช้พื้นที่ตรงนี้เดินออกกำลังกายรดน้ำเองทุกเช้าเย็น ถ้าวันไหนอากาศร้อนจัดก็รดน้ำบ่อยขึ้น และนำร่มคันใหญ่มากางกันแดดให้เฟินและบีโกเนีย เพื่อกันใบเหี่ยวหรือใบไหม้คอยตัดแต่งกิ่งอยู่เสมอจะได้มีพุ่มที่ฟูสวย บางครั้งอาจพบปัญหาบ้างเล็กๆน้อยๆเรื่องหอยทากและหนอนแก้วมากัดกินใบ เราเห็นก็เก็บออก ยิ่งตอนนี้เลิกทำร้านอาหารแล้ว จึงใช้เวลาส่วนใหญ่ดูแลลูก เลี้ยงหลาน และทำสวน รู้สึกเพลิดเพลินสบายใจหายเหงาดีค่ะ ว่างๆก็มานั่งรับลมที่ชานพัก จิบกาแฟ มองดูสวนที่เป็นความสุขความทรงจำเป็นสิ่งที่เรารักและเลือกมาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สร้างขึ้นเอง”
อ่านเพิ่มเติม : สวนพร้อมตาม ธรรมชาติ
เจ้าของ – จัดสวน : ครอบครัวจงรุ่งเรือง
เรื่อง : “อาภาศรี มีมานะ”
ผู้ช่วยกองบรรณาธิการ : สุวรรณา ศรีสมบูรณ์
ภาพ :ศุภกร ศรีสกุล
ผู้ช่วยช่างภาพ : รุ่งโรจน์ มุกดา