THE BEST OF SUKHUMVIT ซอกแซกซอยสุขุมวิท (2)

เมื่อเอ่ยถึง “สุขุมวิท” คุณคิดถึงอะไร?

สำหรับผู้เขียนแล้ว เราคิดถึงสถานที่ผ่อนคลายบรรยากาศดีๆ ของร้านอาหารและร้านคาเฟ่มากมายที่ประชันความเก๋ด้วยไอเดียแต่งร้านสุดบรรเจิด จากความคิดคำนึงนี้เราจึงขอพาชาว room ไปเยี่ยมเยือนซอยสุขุมวิทกันกับ Scoop Directory ประจำเดือนนี้ …ไปดูกันว่าร้านเหล่านี้จะมีไอเดียแต่งร้านสุดแจ่มแค่ไหนกันค่ะ

สำหรับชาว room ที่พลาดร้านอาหารและร้านคาเฟ่ รวมทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ของเจ้าตูบตั้งแต่สุขุมวิท 23 ถึงสุขุมวิท 26 สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ The Best of Sukhumvit… ซอกแซกซอยสุขุมวิท (1)

 

 

จบจากสุขุมวิท 26 ก็มาต่อกันที่สุขุมวิท 31 ซึ่งร้านแรกที่เราขอพาชาว room ไปซอกแซกคือร้าน “Tiny Tree Garden” ร้านคาเฟ่ไซส์มินิสำหรับคนรักต้นไม้ โดยเฉพาะต้นไม้ในขวด หรือ Terrarium ที่เจ้าของวางคอนเซ็ปต์ไว้ว่า Everday’s Growing Happiness ภายในร้านตกแต่งอย่างน่ารักด้วยการเลือกใช้โทนสีน้ำตาลอ่อนที่เสมือนสีข้าวฟ่าง ซึ่งตัดกับสีเขียวของ Terrarium ที่วางตกแต่งภายในร้าน นอกจาก Terrarium ที่วางจำหน่ายทั้งแบบสำเร็จและแบบ DIY แล้ว ร้านนี้ยังเป็นคาเฟ่ให้คนรักต้นไม้ได้มานั่งจิบกาแฟและนั่งพูดคุยกันอีกด้วย

 

 

ต่อด้วยร้านอาหารเท่ๆ ดิบๆ สไตล์รัสติกที่เจือกลิ่นอายสไตล์คันทรี่ Harvest ซึ่งเป็นอีกร้านที่ชาว room ไม่ควรพลาด โดยแรงบันดาลและไอเดียของการแต่งร้านมาจาก ‘อาหาร’ ที่ทางร้านเลือกที่จะนำเสนอรสชาติดั่งเดิมของอาหารในแบบฉบับรัสติกนั่นเอง ภายในร้านจึงตกแต่งให้แสดงถึงเนื้อแท้ของวัสดุเป็นจุดเด่น โดยมีสีเขียวจากไม้ประดับอย่างต้นกระบองเพชรและพืชตระกูลเฟิร์นช่วยตัดความดิบ เสริมเสน่ห์ให้ร้านดูมีชีวิตชีวา

 

 

ปิดท้ายซอยสุขุมวิท 31 ด้วยร้านอาหารที่มีชื่อว่า Home Workร้านอาหารโฮมเมดที่เปิดมากว่า 18 ปี ร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาว – ดำสไตล์ตะวันตกที่เรียบง่ายแต่คลาสสิก โดยเฉพาะการเล่นเส้นสายของกระเบื้องสีขาวที่ตัดขอบด้วยสีดำ ทำให้ร้านนี้โมเดิร์นอย่างเก๋ไก๋ นอกจากนี้กลางร้านยังมี “แคนทีน” ขนาดใหญ่ที่ทำให้รู้สึกเสมือนกำลังนั่งทานอาหารในบ้านของตัวเอง

 

 

หลังจากทานอาหารโฮมเมดแล้ว อย่าลืมแวะไปทานของหวานล้างปากกันในสุขุมวิท 33 กันนะคะ กับร้าน Jaiyen Caféคาเฟ่ไอศกรีมโฮมเมดที่ตั้งอยู่ใกล้ร้าน Home Work แม้จะมีพื้นที่กะทัดรัดแต่ภายในกลับตกแต่งได้อย่างน่ารักด้วยสไตล์ลอฟตืที่เติมความหวานด้วยสไตล์วินเทจอย่างลงตัว

 

 

หากคุณผู้อ่านมิได้ชื่นชอบการทานไฮศกรีมลองแวะมาที่สุขุมวิท 36 เพื่อชิมกาแฟโฮมเมดกันในร้าน “Blue Dye Café” คาเฟ่เล็กๆ แต่อบอุ่นที่เสิร์ฟกาแฟโฮมเมดให้คอกาแฟได้ลิ้มลองกัน ภายในร้านตกแต่งด้วยของสะสมของเจ้าของร้านอย่างผ้ายีนอินดิโกที่ให้คุณได้เห็นความเท่ของผ้ายีนหลากหลายสไตล์ตามมุมร้านกันค่ะ

 

 

หรือจะแวะมาที่สุขุมวิท 39 เริ่มจากร้าน “La Crêperie” บ้านหลังน้อยสีขาวสะอาดตาที่ล้อมรอบด้วยสวนสวยสไตล์ฝรั่งเศสขนาดใหญ่ และเสิร์ฟอาหารประเภทเครปรสชาติต้นตำรับให้คุณได้ลิ้มลอง จุดเด่นของร้านอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่อายุหลายสิบปี กับโครงบ้านเก่าชั้นเดียวที่ได้รับการปรับปรุงให้เป็นร้านอาหาร บรรยากาศชวนฝันของที่นี่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้นั่งกินเครปต้นตำรับในสวนหลังบ้านของฝรั่งเศส

 

 

ต่อด้วยร้านอาหารไทยในชื่อ KRAM Cafe & Thai Kitchen ร้านอาหารไทยที่เน้นความเป็นธรรมชาติสุดๆ ตั้งแต่การตกแต่งไปจนถึงอาหาร โดยมีแปลงผักสวนครัวเล็กๆ สำหรับนำมาประกอบอาหาร จึงได้ความสดใหม่จากแปลงสู่จานอาหารด้วยเวลาไม่กี่ชั่วโมง ‘คราม’ จึงเป็นร้านอาหารที่ให้คุณได้ชิมอาหารไทยดั้งเดิม และเดินเล่นในสวน ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านจริงๆ

 

 

มาปิดท้ายคอลัมน์กันที่ร้านคาเฟ่กึ่งร้านดอกไม้ร้านนี้ Maybe Flower & Café คาเฟ่สีขาวอบอุ่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เสมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน” ซึ่งตกแตงร้านโดยเน้นสีขาวและน้ำตาลในการสร้างบรรยากาศอบอุ่น โดยแซมสีเทาเพื่อเพิ่มความเท่เก๋ให้ร้าน จุดเด่นอของร้านอยู่ที่ ‘โต๊ะเก้าอี้’ รับรองลูกค้าที่มีหลากมุมหลายบรรยากาศ อาทิ โต๊ะแบบเคาร์เตอร์บาร์, มุมชิงช้าที่ทำให้เราย้อนเวลากลับไปในวัยเด็ก และมุมส่วนตัวที่สามารถปิดม่านสร้างแลนด์มาร์คให้ตัวเอง เป็นต้น

 

เรื่องโดย: Taliw
ภาพโดย: แฟ้มภาพนิตยสาร room