THE HISTORY OF THE OFFICIAL WORLD CUP MATCH BALLS วิวัฒนาการของลูกหนังที่ใช้แข่งขันในฟุตบอลโลก

ฟุตบอลโลก 2018Etrusco ฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลี

มาถึงปีแห่งการปฏิวัติลูกฟุตบอลที่ใช้แข่งขันอีกครั้งกับ “Etrusco” ที่ใช้ในฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลี หรือ “อิตาเลีย 90” Etrusco เป็นลูกฟุตบอลลูกแรกที่มีการผลิตด้วยเทคโนโลยีซึ่งผสมเอา polyurethane เข้าไปในเนื้อเพื่อให้ลูกฟุตบอลสามารถป้องกันน้ำได้ 100% โดยมาพร้อมลวดลายสิงโตสามหัวที่สะท้อนอารยธรรมของชาวโรมันโบราณที่เรียกกันว่า Etruscans สร้างคาแรกเตอร์ให้ Etrusco เป็นลูกฟุตบอลที่ดูแปลกตาและสวยงามต่างไปจากรุ่นอื่นๆ ในลวดลายวงกลมแบบเดียวกันเล็กน้อย

Questra ฟุตบอลโลกปี 1994 ที่สหรัฐอเมริกา

“Questra” ซึ่งมีที่มาจาก “Quest for the star” คือลูกฟุตบอลที่เป็นฝันร้ายของนักฟุตบอลลูกหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกก็ว่าได้ เนื่องจากใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเดียวกันกับเทคโนโลยีการผลิตยานอวกาศ ซึ่งช่วยพัฒนาให้ลูกฟุตบอลรุ่นนี้มีการเพิ่มชั้น polyurethane เข้าไป จึงทำให้มีน้ำหนักเบาและเกิดการส่ายได้ง่าย ซึ่งจะทำให้ผู้รักษาประตูคาดเดาทิศทางได้ยากขึ้น หรือแม้กระทั่งกองหน้าผู้มีหน้าที่ทำประตูที่อาจจะไม่คุ้นชินกับการควบคุมน้ำหนักทิศทางในจังหวะจบสกอร์ก็เช่นเดียวกัน

 

Did you know?

น้ำหนักของลูกฟุตบอลมีผลไหม ก็ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ว่า สาเหตุที่โรแบร์โต้ บาจโจ้ ยิงจุดโทษพลาดในนัดชิงชนะเลิศ พร้อมส่งให้บราซิลเป็นแชมป์โลก เป็นเพราะการวางเท้ายิงที่ไม่ดี หรือเป็นเพราะ Questra มีน้ำหนักเบาเกินไปกันแน่ 

Tricolore ฟุตบอลโลกปี 1998 ที่ฝรั่งเศส

ขาวดำหลบไป เพราะนี่คือครั้งแรกของฟุตบอลโลก ที่มีการนำสีแดง ขาว น้ำงิน ซึ่งเป็นสีประจำของธงชาติของฝรั่งเศสมาใช้สร้างลวดลายบนลูกฟุตบอลรุ่น “Tricolore” ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ underglass และมีการใช้ polyurethane และ syntactic foam เป็นส่วนประกอบสำคัญทำให้ลูกบอลเด้งกับพื้นหญ้าได้ดีขึ้น

Fevernova ฟุตบอลโลกปี 2002 ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

ภายหลังจาก adidas ใช้เวลาปรับปรุงและพัฒนาลูกฟุตบอล Tricolore กว่า 3 ปี “Fevernova” ก็ถือกำเนิดขึ้นภายใต้การดีไซน์รูปลักษณ์ที่แปลกตากว่าลูกฟุตบอลในอดีต และกลายเป็นอีกหนึ่งลูกฟุตบอลที่ลวดลายมีส่วนผสมของสีเทา แดง และทอง ฉีกกรอบวงกลมเดิมๆ ซึ่งถูกกล่าวถึงในวงกว้างทั้งในแง่บวกและแง่ลบ แต่ถึงกระนั้น Fevernova ก็ได้ชื่อว่าเป็นลูกบอลที่ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยี เพราะได้รับการออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา และมีประสิทธิภาพสูงที่สุดลูกหนึ่งในสมัยนั้น

Did you know?

ผู้ทำประตูด้วยฟุตบอล Fevernova สูงสุดของรายการ (8 ประตู) ได้แก่ โรนัลโด้ ตำนานกองหน้าหมายเลข 9 ทีมชาติบราซิล ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2002 

Teamgeist ฟุตบอลโลกปี 2006 ที่เยอรมนี

              “Teamgeist” ในภาษาเยอรมันมีความหมายว่า ทีมสปิริต ซึ่งนับว่าเป็นการปฏิวัติลูกฟุตบอลในวงการอีกครั้งก็ไม่ผิดนัก เพราะในการผลิตลูกฟุตบอลลูกนี้ Adidas ใช้หนังจำนวน 14 ชิ้นเท่านั้นในการเย็บ ลดจำนวนลงจากเดิมที่ใช้หนังกว่า 32 ชิ้นเกือบสองเท่าตัว ด้วยรอยต่อของการตัดเย็บที่น้อยลง ส่งผลให้ความเร็วของลูกบอลที่กลมกว่าปกติสร้างปัญหาให้กับผู้รักษาประตูเพิ่มขึ้นไปอีก

Jabulani ฟุตบอลโลกปี 2010 ที่แอฟริกาใต้

หาก Teamgeist ที่ใช้หนังจำนวน 14 ชิ้น ตัดเย็บเป็นลูกบอลที่กลมแล้ว “Jabulani” ที่ในภาษาซูลู (1 ใน 11 ภาษาอย่างทางการของแอฟริกาใต้) หมายถึง ความสุข และ การเฉลิมฉลอง คือลูกฟุตบอลที่กลมยิ่งกว่า แถมใช้หนังเพียงแค่ 8 ชิ้น โดยตัดเย็บแบบไร้รอยต่อ ออกแบบขึ้นโดยสถาบันเทคโนโลยีการกีฬาจากมหาวิทยาลัย Loughborough ในประเทศอังกฤษ และด้วยความเป็นลูกฟุตบอลที่กลมที่สุดลูกหนึ่งเท่าที่ Adidas เคยผลิตมา Jabulani จึงถูกกระแสวิจารณ์ในแง่ลบจากผู้รักษาประตูหลายคนที่ประสบปัญหาด้านการป้องกัน เนื่องจากลูกฟุตบอลมีน้ำหนักเบา จึงไม่สามารถควบคุมทิศทางได้อย่างเสถียร แม้ในแง่ดีคือการยึดเกาะสภาพสนามได้แน่นกว่าเดิมก็ตาม

Did you know?

นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 ระหว่างสเปน กับ เนเธอร์แลนด์ มีการใช้ลูกฟุตบอลพิเศษในชื่อ Jo’Bulani ลวดลายสีทองบนพื้นขาว เป็นชื่อซึ่งสื่อความหมายถึงเมือง โจฮันเนสเบิร์ก ในฐานะดินแดนแห่งทองคำ

 

Brazuca ฟุตบอลโลกปี 2014 ที่บราซิล

Brazuca เป็นลูกฟุตบอลที่มีชื่อเรียกผ่านการโหวตของคนบราซิลนับล้าน โดยความหมายของคำว่า Brazuca สื่อถึงชาวบราซิเลียนที่พลัดถิ่นฐานไปอยู่ต่างแดน รวมถึงสะท้อนวิถีชีวิตอันเปี่ยมด้วยสีสันของพวกเขาเองพร้อมกันในคำเดียว โดยเจ้า Brazuca ลูกนี้ใช้หนังเพียง 6 ชิ้นเท่านั้นในการผลิต และมีการใช้สัญลักษณ์ wish bands หรือริบบิ้นหลากสีที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวบราซิเลียน มาสร้างเป็นลวดลายโค้งและพริ้วไหวที่สะท้อนความสนุกสนานในตัวเอง

 

Did you know?

Brazuca เป็นลูกฟุตบอลที่ถูกนำมาใช้แข่งขันจริงในศึกฟุตบอลลีก Bundesliga ของเยอรมนี และ MLS ของสหรัฐอเมริกา เพื่อทดสอบประสิทธิภาพก่อนใช้งานในฟุตบอลโลกครั้งนั้น ซึ่งท้ายที่สุดเยอรมนีเป็นทีมที่ก้าวไปคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ นอกจากคุณภาพทีมแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าความคุ้นเคยกับลูกฟุตบอลก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทัพอินทรีเหล็กกุมความได้เปรียบไว้ก่อน  

   

Telstar18 ฟุตบอลโลกปี 2018 ที่รัสเซีย

การฟื้นคืนชีพอีกครั้งของ Telstar ในฟุตบอลโลกปี 2018 มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ นั่นคือการฝังชิปไว้ในลูกฟุตบอลเป็นครั้งแรก “Telstar18” ได้รับอิทธิพลมาจาก Telstar ยุคดั้งเดิมที่ใช้แข่งขันในฟุตบอลโลกปี 1970 ที่เม็กซิโก โดยคราวนี้ยังคงเน้นโทนสีขาวดำ แต่ให้ความรู้สึกที่ดูร่วมสมัยและมีมิติที่แปลกตามากขึ้น พร้อมการผลิตให้แผ่นหนังยึดติดกันอย่างไร้รอยต่อให้ได้มากที่สุดอีกด้วย

ค่ำคืนวันที่ 14 มิถุนายน นี้ เวลา 4 ทุ่มตรง คู่แรกของกลุ่ม A ชาติเจ้าภาพอย่าง รัสเซีย จะเปิดสนามลุซนิกิ ในกรุงมอสโก พบกับ ซาอุดิอาระเบีย ตัวแทนจากทวีปเอเชีย เหลือเวลาอีกไม่นานแล้วเราก็จะได้รู้ว่าใคร จะเป็นผู้ทำประตูแรกในทัวร์นาเมนต์ด้วยลูกฟุตบอล Telstar18 วิวัฒนาการจาก Adidas ทั้งในด้านดีไซน์และเทคโนโลยีการผลิตที่ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่อีกเลยนับตั้งแต่โลกฟุตบอลรู้จักกับ Telstar ในปี 1970

ดูโปรแกรมถ่ายทอดสดฟุตบอลบอลโลก 2018 ได้ที่นี่ 
www.amarintv.com

เรื่อง : Nawapat D.
ภาพ : news.adidas.com
อ้างอิง : http://www.soccerballworld.com/HistoryWCBalls.htm
http://www.goal.com/en-us/news/fifa-world-cup-balls-tango-jabulani-telstar-azteca-brazuca/4mbzo7cssvp21x4djfllk2cpx
http://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-5066719/The-history-World-Cup-ball-ahead-2018-Russia.html
https://news.adidas.com/US/Lookbooks/history-of-adidas-world-cup-balls/s/46506801-f5d9-4a51-b5be-c04557c59caf