O2E
‘ORDINARY SPACE FOR ALL’
ห้ามใจยากเหลือเกินที่จะไม่หยุดพักแล้วนั่งชิลที่บู๊ธ O2E ด้วยที่นั่งที่ทำจากไม้คอร์กเล่นระดับและพื้นไม้ไฮบริด เอ็นจิเนียร์ ที่เกิดจากการเว้นจังหวะที่ไม่ธรรมดาตามธีมของงานสถาปนิก’61 ที่การันตีด้วยการได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทความคิดสร้างสรรค์ในงานไปครอง
ด้วยคุณสมบัติตามการผลิตแล้ว ไม้คอร์กมีหน้าที่เฉพาะตัวคือไว้สำหรับปูพื้นเท่านั้น แต่สถาปนิกจาก JUNN ARCHITECT ตั้งใจจะให้ไม้คอร์กใกล้ชิดกับผู้ใช้งานพื้นที่มากกว่านั้น ด้วยการปรับเปลี่ยนมาทำเป็นเก้าอี้ภายในบู๊ธ เพื่อให้คนที่มานั่งได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์โดยตรง แต่การจะทำเพียงเก้าอี้ก็ดูจะทำธรรมดาไป จึงทำการเว้นจังหวะและเพิ่มองค์ประกอบเพื่อเอื้อต่อการพักผ่อน และแวะเวียนเข้ามาในบู๊ธยิ่งขึ้น อย่างการวางหมอนที่บุผ้ามัดย้อม หรือการใส่ต้นไม้เอาไว้เป็นจุดๆ เพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้ทั้งคนในพื้นที่และคนที่ผ่านไปมาเช่นกัน
DESIGN CONCEPT
แต่ภาพรวมของบู๊ธที่ดูเหมือนจะแรนดอมเก้าอี้ไม้คอร์กและเว้นจังหวะนั้น แท้จริงแล้วเกิดจากการแตก PIXEL จาก CUBIC โดยมองบู๊ธให้เป็นแบบแมสองค์รวม แล้วค่อยแตกพิกเซลออกมาทีละส่วน จากนั้นจึงค่อยๆ เว้นจังหวะที่เหมาะสมสวยงาม อีกทั้งยังต้องการให้มีขนาดเหมาะสมต่อการใช้งาน อย่างการแตกทอนออกมาเป็นเก้าอี้ กะบะต้นไม้ และส่วนจัดแสดงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
O2E บู๊ธ F101
VIRGO LAMINATE
‘CO ACTIVITY SPACE’
ถึงแม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่สำหรับการนำเข้าในวงการลามิเนตในบ้านเรา แต่การดีไซน์บู๊ธกลับไม่มือใหม่แม้แต่น้อย ด้วยเพราะทางแบรนด์ VIRGO LAMINATE ต้องการสร้างภาพจำและใช้วัสดุมาแสดงศักยภาพให้มากที่สุด จึงเกิดเป็นบูทรูปทรงโฉบเฉี่ยวท้าทายสายตา
DESIGN CONCEPT
คุณสถาปน์ เชื้อสถาปนศิริ และ คุณชญานนท์ เตชะหัสดิน คือ สถาปนิกที่ได้รับหน้าที่ในการต่อยอดความคิดในงานดีไซน์ แน่นอนว่าทั้งคู่เริ่มต้นโจทย์จากความไม่ธรรมดาเช่นกัน แต่ความไม่ธรรมดาของทั้งคู่ถูกตีความในรูปแบบเส้นเฉียงที่ เชื่อมโยงมาจากชื่อแบรนด์โดยตรง เสริมด้วยการดึงองค์ประกอบจากวัสดุชนิดที่ไม่ใช่ลามิเนตอย่างเหล็ก และการใช้ไม้กระถางเข้ามาวางตามจุดต่างๆ เพื่อสร้างชีวิตชีวาให้กับบู๊ธ จนเกิดเป็น Co Activity Space ที่รวมของการพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนซึ่งกันละกันโดยมีสเปซที่ถูกออกแบบอย่างตั้งใจเป็นตัวกำหนดพฤติกรรม
VIRGO LAMINATE บู๊ธ F406
LSX
‘MAGIC MOMENT’
DESIGN CONCEPT
‘เพราะต้องอยู่ในที่ๆ ใช่ ในจังหวะที่ใช่’ ช่วงเวลานั้นจึงเกิดเป็น MAGIC MOMENT คือ แนวความคิดในการออกแบบจาก คุณสุภาวดี จิตต์เรืองบุญและคุณน้ำทิพย์ เสนาธรรม จากบริษัท เค ทู เอ็กซิบิท จำกัด ที่ต้องการสร้างแรงดึงดูดและความประทับใจต่อลามิเนตที่มีคุณสมบัติพิเศษจากมุมมองระยะไกล จึงเกิดเป็นแมสรูปทรงสะดุดตาที่มีเส้นเฉียงจากการถูกตัดทอน ทับซ้อนและบิดไปมาของโครงสร้างเพื่อสร้างกิมมิคและเผยให้เห็น Movement บางส่วนและเสน่ห์จากพื้นที่ภายใน
ภายนอกผู้ออกแบบเลือกใช้แผ่นลามิเนตที่มีคุณสมบัติโปร่งแสงเอามาเล่นกับไลท์ติ้ง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแมส อีกทั้งยังใส่เรื่องของความ Contrast ระหว่างภายนอกและภายในบู๊ธ ด้วยลวดลายและแพทเทิร์ทที่ภายในจะสนุกสนานกว่า เพื่อสร้างประสบการณ์การรับรู้พื้นที่ที่แตกต่างกันแม้จะอยู่ในพื้นที่เดียวกันก็ตาม
LSX บู๊ธ F302
ART4D
‘LIT IN LIT’
ปิดท้ายกันด้วยบูธที่หยิบเอาวัสดุที่ธรรมดาที่สุดในโลกแห่งการออกแบบมาตบหน้าคำว่า ‘ธรรมดา’ ได้เจ็บที่สุดเท่าที่เราได้สัมผัสมา และบูธที่เรากล่าวถึงคือ บูธของ art4d ออกแบบโดย Bangkok Project Studio
DESIGN CONCEPT
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Bangkok Project Studio เลือกที่จะแสดงพลังของวัสดุนอกสายตาอย่างไม้ยางนามาแสดงศักยภาพ แต่ครั้งนี้ไม้ยางนาถูกนำมาจับคู่กับวัสดุที่เรียกได้ว่าถ้าให้คะแนนความนอกสายตาก็คงสูงพอๆ กัน อย่างบล็อกแก้วที่มักจะเป็นตัวเลือกแรกที่จะถูกนำไปใช้กับบริเวณห้องน้ำ แต่มาครั้งนี้เหมือนเป็นการจับคู่ที่เรียกได้ว่าเป็น ‘มวยถูกคู่’ ที่ต่างฝ่ายต่างถูกเมินแต่กลับมีคุณสมบัติเด่นในตัวเองที่เข้ามาเสริมจุดเด่นและกลบข้อด้อยของอีกฝ่ายได้จนมิด ด้วยลักษณะทางกายภาพของบล็อกแก้วที่มีร่องรอบด้านไว้ยึดเกาะนั้นเข้ากันได้ดีกับคุณสมบัติความยืดหยุ่นของไม้ยางนา บวกกับฝีมือการออกแบบที่ต้องอาศัยประสบการณ์และการเรียนรู้มาอย่างลึกซึ้ง จนเกิดเป็น Pavilion บล็อกแก้วสูงตระหง่าน 5 เมตร อวดสายตาของทุกคนในงานสถาปนิก’61 อย่างไม่ข้อกังขา
ART4D บู๊ธ F502/1
เรื่อง Ektida N.
ภาพ ศุภกร, ภาพประชาสัมพันธ์